เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 68 ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) พร้อมด้วย สส. ของพรรค อาทิ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา และนายทะเบียนพรรค นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี และเหรัญญิกพรรค นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส.บัญชีรายชื่อ นายกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่ จ.บึงกาฬ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาโรคใบจุดกลมจากเชื้อ Colletotrichum siamense (ใบร่วงชนิดใหม่) ในยางพารา เนื่องมีการแพร่ระบาดบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เช่น จ.หนองคาย จ.อุดรธานี จ.บึงกาฬ และ จ.เลย อยู่ในขณะนี้

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวกับเกษตรกรช่วงหนึ่งว่า “ราคายางพาราสูงขึ้น เกิดขึ้นในสมัยพรรคกล้าธรรม และตนสนับสนุนนโยบายโฉนดต้นยางสร้างมูลค่าให้กับต้นยางพารา ซึ่งตนเคยทำไว้ในสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันนี้ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะนำไปสานต่อ ตนก็ยินดีมาก เพราะชาวสวนยางจะได้มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อไปขอสินเชื่อจากธนาคาร เกษตรกรชาวสวนยางจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึง นโยบายการเปลี่ยน ส.ป.ก 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ว่า ตนเคยปราศรัยหาเสียงว่า จะเปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นโฉนด ภายในกรอบระยะเวลาที่เป็นรัฐบาล หลายคนดูถูกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ตนและ อ.นฤมล ก็ทำให้เห็นแล้ว

”คำว่าโฉนดเพื่อการเกษตร ต่างกับ ส.ป.ก.4-01 ราวกับฟ้ากับดิน มูลค่าสูงขึ้น สิทธิที่ดินมีมากมาย แล้วตอนที่ผมเป็นรัฐมนตรี เราก็ได้ทำแล้ว อ.นฤมล ก็มาสานต่อ อยากฝากเกษตรกรทุกคนว่า เมื่อได้โฉนด จะต้องรักให้มาก ๆ อย่าปล่อยให้วิ่งไปที่ ธ.ก.ส. และอย่าไปขายให้นายทุน.