เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2568 ที่ อ.เซกา จ.บึงกาฬ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกรณีที่เปิดเผยว่าจะมี สส. ของพรรคฝ่ายค้าน 10 คน ยกมือไว้วางใจให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมทยอยเข้าซบพรรคกล้าธรรม ว่ามีการพูดคุยหรือล็อบบี้กลับเข้าสังกัดเดิมหรือไม่ ว่า ยังไม่มีใครมาล็อบบี้อะไร มีแต่สื่อมวลชนถาม เพราะมีความสงสัยว่า 10 คนนั้นคือใครบ้าง
เมื่อถามถึง กรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ออกมาระบุว่า สส.ฝ่ายค้าน 10 คน ไม่มี สส. ของพรรคประชาชนแน่นอน ร.อ.ธรรมนัส กล่าาวว่า เราอยู่ในที่ของเรา ในฐานะที่เราเป็น สส. ก็ให้เกียรติทุกพรรคเหมือนกันหมด แต่เรื่องของอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่มีใครไปพันธนาการใครได้ ซึ่งเราไม่ได้หมายถึงพรรคไหน
เมื่อถามว่า มีการสืบมาหรือยังว่า ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางเรื่องใดในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ทางพรรคกล้าธรรมดูแลอยู่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกระทรวงใหญ่ เกี่ยวข้องกับประชาชนไม่น้อยกว่า 30 ล้านคน ฉะนั้นการที่เราจะถูกพาดพิงเป็นเรื่องปกติ หากไม่ถูกพาดพิงจะเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่ง รมว.เกษตรฯ และ 2 รมช.เกษตรฯ ที่กำกับดูแลแต่ละกรม ต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อม
“ในยุคที่ผมเป็น รมช.เกษตรฯ ผมว่าไม่มีรัฐมนตรีคนไหนถูกอภิปรายมากกว่าผม พอมาเป็น รมว.เกษตรฯ ประวัติศาสตร์การอภิปรายของวุฒิสภาที่ถามผม และผมอยู่บนเวทีคนเดียว 2-3 ชม. โต้ตอบในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง เราก็สามารถอยู่ได้ ฉะนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล แน่นอนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรฯ เจ้ากระทรวงจะต้องลุกขึ้นชี้แจงในฐานะผู้รู้จริง“ ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามว่า ทางกระทรวงเกษตรฯ จะมีการตั้งวอร์รูมช่วยนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่แต่ละกระทรวงต้องทำ เพื่อสนับสนุนข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงให้นายกรัฐมนตรี