ปัจจุบันแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ที่ได้รัยความนิยมอย่างมากในไทยคงหนีไม่พ้น ติ๊กต็อก (TikTok) ที่พอมีเวลาว่างทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่าง ไถฟีด “ติ๊กต็อก”กันรัวๆ บางคนก็ขยันอัพคลิป กลายเป็น ดาวติ๊กต็อกกันไปถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม ที่ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และมอบความสุขให้กับผู้คน
อย่างไรก็ตามการมีพฤติกรรมไถฟีด เล่นโซเซียลมากเกินไปก็อาจทำให้ส่งผลเสียต่อเรื่องการเรียน ทำงาน และสุขภาพไปด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กๆ ที่อาจจะยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ
ซึ่งในทุก ๆ วันนี้ กลุ่มผู้ใช้เยาวชนทั่วโลกเข้ามายัง ติ๊กต็อก เพื่อแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ พูดคุยร่วมกับเพื่อน ๆ และเรียนรู้สิ่งใหม่อย่างมากมาย ขณะที่ในเมืองไทยก็มีไม่น้อย

ทาง “ติ๊กต็อก” จึงได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เพื่อสนับสนุนผู้ปกครองสามารถดูแลและสร้างพฤติกรรมการใช้ดิจิทัลอย่างสมดุลในครอบครัวได้ง่ายขึ้นวันนี้ ทาง คอลัมน์ “ชีวิตติด TECH” มีฟีเจอร์ที่ “ติ๊กต็อก” เปิดตัวใหม่นี้มาแนะนำกัน
โดย ติ๊กต็อก ระบุว่า ได้พัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่สุดและตั้งเป็นค่าเริ่มต้นให้กับบัญชี เพื่อให้มั่นใจว่าทุก ๆ คนจะได้รับประสบการณ์ที่ดี พร้อมสร้างความสบายใจให้กับผู้ปกครองควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยให้ครอบครัวดูแลใส่ใจซึ่งกันและกันได้อย่างง่ายดายยื่งขึ้น
ซึ่งเมื่อห้าปีที่แล้ว ติ๊กต็อก ได้เปิดตัว “Family Pairing” เครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ปกครองควบคุมและดูแลการใช้งาน ติ๊กต็อก ของเด็ก ๆ และเยาวชนได้ง่ายขึ้น และยังได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตามคำแนะนำของผู้ปกครองและผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้เพิ่มฟีเจอร์ “Time Away” เปิดให้ผู้ปกครองสามารถกำหนดเวลาใช้งาน ติ๊กต็อก ของผู้ใช้กลุ่มเยาวชนได้ตามช่วงเวลาที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวัน ตอนอยู่โรงเรียน ตอนเย็น หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่อยู่กับครอบครัว
เช่น หากต้องการให้ลูก ๆ พักผ่อนตอนกลางคืน ก็สามารถตั้งเวลา “งด” ใช้ ติ๊กต็อก หลังสี่ทุ่มได้ และยังกำหนดตารางเวลาการใช้งานได้ทั้งแบบรายวันหรือรายสัปดาห์เพื่อปรับให้เหมาะกับกิจวัตรของครอบครัว โดยยังสามารถตั้งค่าเพื่อเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ซึ่งถ้าผู้ใช้กลุ่มเยาวชนต้องการใช้ ติ๊กต็อก ในเวลาที่ถูกจำกัดอยู่ ก็สามารถขอต่อเวลาเพิ่มจากผู้ปกครองได้ โดยผู้ปกครองจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะอนุมัติหรือไม่

ขณะเดียวกัน สำหรับในส่วนของฟีเจอร์ Family Pairing นั้น จะเป็นฟีจเอร์ที่ช่วยให้ผู้ปกครองได้ทราบว่าเด็ก ๆ และเยาวชนที่อยู่ภายใต้การดูแลนั้นกำลังติดตามใครอยู่บ้าง และมีเพื่อนคนไหนที่มาติดตามลูกของตนเองบ้าง
นอกจากนี้ยังสามารถรู้ว่าคอนเทนต์ที่ลูก ๆ สนใจบน ติ๊กต็อก คืออะไร เป็นแบบไหน ? ซึ่งจะช่วยให้เกิดบทสนทนาที่เปิดกว้างและกระตุ้นให้เยาวชนสามารถพัฒนาความรู้และทักษะดิจิทัลที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม ทาง ติ๊กต็อก ระบุว่า ติ๊กต็อก ตะระหนักดีว่าผู้ปกครองต้องการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่ลูก ๆ รับชมหรือมีส่วนร่วมบน ติ๊กต็อก ทำให้เร็วๆนี้ กำลังเตรียมเปิดตัวเครื่องมือที่เยาวชนสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อกดรีพอร์ทวิดีโอที่ไม่เหมาะสมให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองรับทราบไปพร้อม ๆ กันได้ แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานฟีเจอร์ Family Pairing ก็ตาม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการนี้ของกลุ่มผู้ปกครอง
สำหรับการ อัปเดตล่าสุด ทำให้ผู้ปกครองสามารถดูหรือตั้งค่าฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ความเป็นอยู่ที่ดี และความเป็นส่วนตัวครอบคลุมมากกว่า 15 รายการ ประกอบด้วย
การเปิดใช้งานฟีด STEM ขึ้นอีกครั้ง หากถูกปิดใช้งานไปก่อนหน้า โดยปัจจุบันฟีด STEM เปิดให้บริการแล้วครอบคลุมกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และมีเยาวชนหลายล้านคนใช้งานทุกสัปดาห์
การตั้งค่าจำกัดเวลาหน้าจอรายวันแบบกำหนดเอง ตัวอย่างเช่น ผู้ปกครองสามารถเลือกที่จะจำกัดเวลาหน้าจอการใช้งาน TikTok ของลูก ๆ ไว้ที่ 30 นาที ในช่วงวันธรรมดา แต่จะนานขึ้นเล็กน้อยในวันหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อถึงเวลาจำกัดที่ผู้ปกครองตั้งไว้ จะสามารถใช้ TikTok ได้ก็ต่อเมื่อผู้ปกครองแชร์รหัสผ่านให้เท่านั้น แม้ผู้ปกครองจะไม่ได้กำหนดการตั้งค่าไว้ แต่สำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับการตั้งค่าเวลาหน้าจอรายวันไว้ที่ 60 นาที เป็นค่าเริ่มต้น

และหากเผลอตั้งค่าบัญชี TikTok เป็นสาธารณะ ผู้ปกครองก็สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นแบบส่วนตัวได้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ติ๊กต็อกแนะนำสำหรับผู้ปกครอง คือ การ ปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ดิจิทัลอย่างสมดุลในกลุ่มผู้ใช้เยาวชน โดยทาง ติ๊กต็อก ได้พิจารณาแนวทางใหม่เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนได้พักผ่อนเพียงพอในช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี เพื่อส่งเสริมการนอนหลับที่มีคุณภาพ
ทาง ติ๊กต็อก ได้เปิดตัวฟีเจอร์ “Wind Down” ซึ่งจะแจ้งเตือนบนหน้า For your feed หลังจากเวลา 22.00 น. โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เยาวชนได้ผ่อนคลายจากเสียงเพลง และลดการใช้งานแอปพลิเคชันช่วงเวลาก่อนนอน หากพวกเขายังเลือกใช้งานต่อจะมีการแจ้งเตือนครั้งที่สอง โดยปรากฎในตำแหน่งที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ที่ระบบจะไม่ส่งการแจ้งเตือนแบบพุชให้กับผู้ใช้กลุ่มนี้ในช่วงเวลากลางคืน
การออกแบบฟีเจอร์เหล่านี้ทาง ติ๊กต็อก ระบุว่า เพื่อต้องการปลูกฝังแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในเชิงทฤษฎีเพื่อปรับพฤติกรรมเชิงบวกให้กับผู้ใช้กลุ่มเยาวชนในระยะยาวได้ และในประเทศที่ได้มีการทดลองใช้ระบบนี้ พบว่าเยาวชนส่วนใหญ่ตัดสินใจเปิดการแจ้งเตือนนี้ไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักรู้ในการสร้างพฤติกรรมการใช้งานสื่อดิจิทัลที่สมดุล และในอีกไม่กี่สัปดาห์ จะมีทดสอบการเพิ่มแบบฝึกสมาธิลงในการแจ้งเตือน Wind Down ด้วย เนื่องจากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทำสมาธิอย่างมีสติสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับได้

สุดท้ายแล้วทาง ติ๊กต็อก ยืนยันว่า พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นจากชุมชน เพื่อแจ้งถึงแผนงานในอนาคต นอกจากนี้ทาง ติ๊กต็อกกำลังดำเนินการวิจัยร่วมกับผู้ปกครองและกลุ่มผู้ใช้วัยรุ่นทั่วโลก เพื่อทำความเข้าใจว่าาจะสามารถช่วยพัฒนานิสัยและพฤติกรรมการใช้งานดิจิทัลอย่างสมดุลให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชนได้อย่างไรอีกบ้าง?
สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่มีบุตรหลานใช้งาน ติ๊กต็อก ก็ควรจะเปิดใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าว เพื่อใช้งานอย่างปลอดภัย สามารถพัฒนาความรู้และทักษะดิจิทัลได้มากขึ้น!
Cyber Daily