สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ว่า เมื่อปีที่แล้ว มีรายงานผู้ป่วยโรคหัดสะสมในยุโรป 127,350 คน และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 ราย ใน 53 ประเทศสมาชิกของดับเบิลยูเอชโอในภูมิภาคยุโรป ซึ่งรวมถึงเอเชียกลาง
โรมาเนียและคาซัคสถาน เป็นประเทศซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีรายงานผู้ป่วยสะสม 30,692 คน และ 28,147 คน ตามลำดับ ขณะที่ผู้ป่วยในยุโรปครึ่งหนึ่ง ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และ 40% เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ
We're seeing our highest number of measles cases in 25 years.
— WHO/Europe (@WHO_Europe) March 13, 2025
127,350 measles cases were reported in the WHO European Region for 2024—nearly double the number reported in 2023.
Read the media release: https://t.co/DMTQ22uG5A pic.twitter.com/t23Q7dxPrY
นพ.ฮันส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภาคพื้นยุโรป กล่าวว่า “โรคหัดกลับมาอีกครั้ง และเป็นการเตือนให้ตื่นตัว ซึ่งหากไม่มีอัตราการฉีดวัคซีนที่สูง ก็ไม่มีความมั่นคงทางสุขภาพ”
ทั้งนี้ นพ.คลูเกอ เรียกร้องให้หน่วยงานสาธารณสุขของทุกประเทศ เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนเพื่อปกป้องชุมชนที่ไม่ได้รับวัคซีน อนึ่ง จากสถิติในปี 2566 เด็ก 500,000 คน ในภูมิภาคแห่งนี้ ไม่มีประวัติได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดเข็มแรก
แม้แนวโน้มการพบผู้ป่วยโรคหัดลดลงอย่างรวดเร็วในยุโรป โดยเหลือเพียง 4,440 คน เมื่อปี 2559 หลังเคยสูงถึง 216,000 คน เมื่อปี 2540 อย่างไรก็ตาม โรคนี้กลับมาระบาดอีกครั้งในช่วงปี 2561-2562 และพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2566 เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนลดลงในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES