เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ภายหลัง น.ส.ชลธิชา ศุภรัตน์วนิชย์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 4 และพ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 พร้อมด้วยคณะกรรมการชุดชันสูตรพลิกศพ ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ, เจ้าหน้าที่อัยการ, เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลตำรวจ เข้าตรวจสอบและจำลองการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ในเรือนจำกลางคลองเปรม กว่า 3 ชั่วโมง

‘พฐก.’ นำหุ่นจำลอง ‘อดีตผกก.โจ้’ สาธิตการผูกคอในห้องขังแดน 5

พ.ต.อ.ธิติพงศ์ เปิดเผยว่า การจำลองเหตุการณ์ในวันนี้ โดยยืนยันว่า ทำตามลำดับขั้นตอนเสมือนวันเกิดเหตุ ที่มีการบันทึกเป็นรายงาน และสอดคล้องกับคำให้การของพยานแวดล้อมทั้งหมด สำหรับการแขวนคอของอดีตผู้กำกับโจ้ เจ้าหน้าที่ได้เลือกใช้หุ่นจำลองที่มีลักษณะของผู้เสียชีวิต ซึ่งยืนยันว่า จากการจำลองเจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่า อดีตผู้กำกับโจ้ สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวในการใช้ผ้าขนหนูมัดคอตัวเองกับลูกกรง

ส่วนเงื่อนไขห้วงเวลาการจำลอง ที่ทำในช่วงกลางวันต่างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในช่วงกลางคืน พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ยืนยันว่า ไม่เป็นอุปสรรคต่อผลการจำลอง และการพิจารณาของคณะกรรมการการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิต พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และกำหนดต้องเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบภายใน 30 วัน

ส่วนกรณีเงื่อนหรือปมของผ้าที่ผูกไว้กับลูกกรง พ.ต.อ.ธิติพงศ์ กล่าวว่า ได้ตรวจดูที่เกิดเหตุ ตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ฉะนั้นการจำลองวันนี้จึงทำให้เหมือนกับในวันจริงมากที่สุด แต่รายละเอียดยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าเป็นการผูกในเงื่อนลักษณะใด ส่วนรอยเลือดที่ปรากฏใกล้ที่เกิดเหตุ และรอยบาดแผลจากการถูกสัตว์ขนาดเล็กกัดแทะ ขณะนี้อยู่ในสำนวนการสอบสวนยัง จึงไม่สามารถจำแนกได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด

อย่างไรก็ตาม เรื่องคลิปเสียงการสนทนาระหว่างอดีตผู้กำกับโจ้กับครอบครัว ก่อนเกิดเหตุเสียชีวิต กับการพิจารณาภาพวงจรปิดไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการชุดนี้เป็นในส่วนของคดีอาญาที่มีการดำเนินไปตามกระบวนการอยู่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้ความสนใจในคดีอื่นเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เฉพาะเพียงคดีนี้ที่มีการระดมหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลตรวจสอบ

น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า พนักงานอัยการมาร่วมการจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุ กับอีก 3 หน่วยงาน ขณะนี้ยืนยันว่าข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ อธิบดีการสอบสวนจะเป็นผู้ให้ข้อมูลในท้ายสุด ยืนยันว่าคณะกรรมการชุดนี้เกี่ยวข้องเฉพาะคดีการชันสูตรพลิกศพซึ่งเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่พนักงานอัยการต้องร่วมงานกับพนักงานสอบสวน