เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 มี.ค. 68 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) พร้อมด้วย นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น” ร่วมแถลงข่าวกรณีการทำหน้าที่ของ สว. โดย น.ส.นันทนา กล่าวว่า ในวันที่ 18 มี.ค. นี้ มีวาระที่จะเข้ามา คือการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 คน ซึ่งในกระบวนการที่จะลงมติเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบนั้น ยังเป็นที่กังขาของสาธารณชนโดยทั่วไป เพราะขณะนี้การตรวจสอบที่มาของ สว. ทั้งหมด อยู่ในมือของ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว ซึ่งประชาชนก็ยังสงสัยการได้มาซึ่ง สว. ทั้งหลาย เพราะฉะนั้น หากจะมีการลงมติในวันที่ 18 มี.ค. นี้ ก็อาจจะส่งผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากการดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระนั้น มีอายุวาระ 7 ปี ถ้า สว. ที่ไปลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ หากบุคคลนั้นเข้าไปดำรงตำแหน่งแล้ว เมื่อการตรวจสอบมีปัญหาว่าไม่สุจริต ก็จะทำให้ผู้ที่เป็น สส. นั้น ขาดคุณสมบัติ และถ้าคนที่เป็น สว. ขาดคุณสมบัติแล้วไปลงมติเห็นชอบให้กับผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ จะส่งผลให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนั้น เป็นโมฆะ และจะเป็นผลกระทบระยะยาว
“ขอเรียกร้องให้บรรดา สว. ทั้งหมด ชะลอการลงมติเห็นชอบองค์กรอิสระในวันที่ 18 มี.ค. นี้ ไปก่อน จนกว่าการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะตรวจสอบจนสิ้นสงสัย ว่ากระบวนการได้มาซึ่ง สว. นั้นสุจริตโปร่งใส แล้วค่อยมาทำหน้าที่ลงมติกันต่อ ซึ่งก็จะไม่ส่งผลกระทบในระยะยาว” น.ส.นันทนา กล่าว

ด้านนายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะมีการลงมติในวันที่ 18 มี.ค. นี้ ด้วยข้อห่วงใย 3 ประการ คือ 1.ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญปัจจุบันพ้นจากวาระไปแล้ว 2 คน ยังคงเหลืออยู่ 7 คน ซึ่งทั้ง 7 คนนี้ ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และยังไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน 2.แม้ สว. กลุ่มดังกล่าว จะอ้างว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ แต่การสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ จะทำให้ไม่มีความสง่างาม 3.กลุ่ม สว. ได้แถลงข่าวที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง และแสดงตนว่าอยู่ขั้วการเมืองตรงข้ามกับรัฐบาล แปลว่าองค์กรอิสระที่ สว. คัดเลือกมา ก็อาจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่สุจริต หรือกลั่นแกล้งกันทางการเมืองหรือไม่
นายภัทรพงศ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ตนได้ไปยื่นเรื่องที่สำนักงาน ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนกรณี สว. ใช้เวทีวุฒิสภาเอาผิด รมว.ยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น เป็นการแจ้งความเท็จหรือไม่ เนื่องจากทั้ง 2 คน ก็ปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ แต่หลังจากที่ สว. กลุ่มดังกล่าว ไปยื่นต่อ ป.ป.ช. ให้เอาผิด รมว.ยุติธรรมและอธิบดีดีเอสไอ ต่อมาเพียงวันเดียว ป.ป.ช. ก็รับคำร้องไว้แล้ว.