เรียกได้ว่ายังคงเป็นประเด็นร้อนของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ที่สังคมต่างจับจ้องอยู่ในขณะนี้ เมื่อช่องยูทูบ “Hoverlab” (Garo Sero Research Institute) ออกมาแฉว่าพระเอกชื่อดัง “คิมซูฮยอน” เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนักแสดงสาว “คิมแซรน” เป็นเวลานานถึง 6 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ฝ่ายหญิงมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการทวงหนี้กว่า 700 ล้านวอน ก่อนที่คิมแซรน จะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในวัย 24 ปี เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แม้ต้นสังกัดของคิมซูฮยอนจะออกมาปฏิเสธและขู่ดำเนินคดี แต่สถานการณ์กลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อครอบครัวของคิมแซรนได้ออกมาเปิดเผยหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งจดหมายที่คิมซูฮยอนเขียนถึงเธอขณะเกณฑ์ทหาร และภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่มีความใกล้ชิดกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด “Gold Medalist” ต้นสังกัดของคิมซูฮยอนได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของช่องยูทูบ “Hoverlab” และยืนยันว่าคิมซูฮยอนเคยคบกับคิมแซรนจริง แต่ได้คบกันขณะที่คิมแซรนบรรลุนิติภาวะแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้ระบุถึงสุขภาพจิตของคิมซูฮยอนที่ตกต่ำลงเนื่องมาจากคำกล่าวอ้างดังกล่าวด้วยว่า
“สวัสดี นี่คือ Gold Medalist เรากำลังแบ่งปันจุดยืนของคิมซูฮยอนเกี่ยวกับรายงานล่าสุดจากสถาบัน Garo Sero ก่อนหน้านี้เราได้แจ้งไปแล้วว่าจะมีการแถลงการณ์พร้อมหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อหักล้างข้อกล่าวอ้างที่ระบุไว้ในรายงานของพวกเขาในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม คิมซูฮยอนได้แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นคงทางจิตอย่างกะทันหันในช่วงเช้าของวันนี้ ดังนั้นเราจึงได้ดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าเขาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เขากำลังทุกข์ทรมานจากความโกลาหลสุดขีดเนื่องมาจากการกล่าวอ้างของสถาบัน Garo Sero ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องต่อการเสียชีวิตกะทันหันของคิมแซรน นอกจากนี้หลังจากการถ่ายทอดสดของพวกเขาสิ้นสุดลงในวันที่ 12 มีนาคม ผู้คนในรถที่มีกล้องกำลังรออยู่ในที่จอดรถของบริษัทและบริเวณทางเข้าหลัก และในช่วงเวลาอาหารกลางวันของวันที่ 13 มีนาคม ผู้คนที่ถือกล้องกำลังเดินเตร่ไปรอบๆ อาคาร ซึ่งทำให้คิมซูฮยอนต้องเผชิญกับความกดดันทางจิตใจเพิ่มมากขึ้น
โปรดเข้าใจว่าเราได้ออกแถลงการณ์เร่งด่วนนี้เพื่อเปิดเผยความจริงในประเด็นสำคัญต่างๆ แม้ว่านี่จะแตกต่างจากเดิมของเรา แต่ก็ไม่มีแผนอื่นใดที่สำคัญกว่าแผนนี้ ดังนั้นเราจึงขอประกาศแถลงการณ์นี้แม้ว่าอาจมีจุดที่ไม่ชัดเจนอยู่บ้าง
คิมซูฮยอนและคิมแซรนคบหากันตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนปี 2019 จนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2020 หลังจากที่เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่เป็นความจริงที่คิมซูฮยอนคบหากับเธอตอนที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ รูปภาพของคิมแซรนที่เธออัปโหลดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2024 บนสตอรี่อินสตาแกรมของเธอ และรูปภาพที่สถาบัน Garo Sero แชร์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2025 เป็นรูปภาพส่วนตัวที่ถ่ายโดยทั้งสองในช่วงฤดูหนาวปี 2020 ตอนที่พวกเขากำลังคบหากัน เสื้อผ้าที่คิมแซรนสวมใส่ในเวลานั้นได้รับการเผยแพร่ในเดือนมิถุนายน 2019 โดยแบรนด์ ดังนั้นการอ้างของสถาบัน Garo Sero ว่ารูปภาพดังกล่าวถ่ายในปี 2016 ตอนที่คิมแซรนยังเป็นผู้เยาว์จึงเป็นไปไม่ได้
นอกจากนี้ ยังมีรูปภาพอีกภาพที่สถาบัน Garo Sero แชร์เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2025 เป็นภาพที่ทั้งคู่ถ่ายในวันคริสต์มาสอีฟวันที่ 24 ธันวาคม 2019 ซึ่งได้รับการยืนยันจากข้อมูลเมตาของรูปภาพ โดยรูปภาพดังกล่าวเผยแพร่เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025 ถ่ายในวันเดียวกัน โดยเห็นได้จากการที่ทั้งคู่สวมเสื้อผ้าแบบเดียวกัน รูปภาพทั้งหมดที่สถาบัน Garo Sero แชร์พร้อมข้อกล่าวหาว่าคิมซูฮยอนเคยคบกับคิมแซรนเมื่อเธอยังเป็นผู้เยาว์นั้นถ่ายหลังจากที่เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ข้อกล่าวหาที่ว่ารูปภาพเหล่านี้ถ่ายในปี 2016 นั้นไม่มีมูลความจริง เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้คบหากันในเวลานั้น
จดหมายของคิมซูฮยอนถึงคิมแซรนขณะที่เขาอยู่ในกองทัพเป็นเพียงหนึ่งในจดหมายที่เขาส่งถึงเพื่อนสนิทของเขา อย่างที่คุณเห็นจากเนื้อหาของจดหมาย คิมซูฮยอนกำลังปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตในกองทัพ และใช้จดหมายฉบับนั้นเพื่อแจ้งให้เพื่อนสนิทของเขาทราบเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเขาในกองทัพ การแสดงออกว่า “ฉันคิดถึงคุณ” เป็นสำนวนที่ทหารใช้พูดกับเพื่อนสนิทของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สถาบัน Garo Sero อ้างว่าทั้งสองคบกันมาตั้งแต่ปี 2015 โดยใช้รูปถ่ายที่ถ่ายหลังจากคิมแซรนเป็นผู้ใหญ่และอ้างว่าพวกเขาถ่ายเมื่อเธอยังเป็นผู้เยาว์ พวกเขาใช้โปสการ์ดที่ส่งถึงคิมแซรนหลังจากที่ทั้งสองออกเดทกันเพื่อเสริมข้ออ้างของพวกเขาว่าจดหมายของกองทัพก็เป็นจดหมายรักเช่นกัน ชื่อเล่นของคิมแซรน (Saero Nero, 새로네로 ) ที่เธอใช้ตั้งแต่ปี 2016 ถูกทำให้ดูเหมือนว่าเป็นชื่อเล่นที่เฉพาะทั้งสองใช้ระหว่างกันเท่านั้น
มีการวิพากษ์วิจารณ์มากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคิมซูฮยอน แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คาดว่าชีวิตของคิมซูฮยอนในฐานะบุคคลที่คนจำนวนมากรักจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณชน หากมีการวิพากษ์วิจารณ์ เขาก็ควรยอมรับมันอย่างจริงจังและควรได้รับความเจ็บปวดมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม จากรายงานของสถาบัน Garo Sero ทำให้มีการกล่าวอ้างเท็จและข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมากมายแพร่กระจายราวกับว่าเป็นเรื่องจริง ผู้ให้ข้อมูลที่ปรากฏตัวในรายการและกล่าวอ้างเท็จหลายครั้งระบุว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวคิมแซรน แต่ตามรายงานของสื่อแห่งหนึ่ง เธอเป็นเพียงคนรู้จักของแม่ของคิมแซรน (ไม่ใช่ป้าของเธอ) พวกเขากำลังบิดเบือนความจริงและสร้างข่าวลือโดยอิงจากภาพถ่ายและข้อมูลบางส่วนจากผู้ให้ข้อมูลที่ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้
ความจริงที่ชีวิตส่วนตัวสุดโต่งของทั้งสองคนถูกเปิดเผยโดยคนอื่น และความจริงที่ชีวิตส่วนตัวของคิมซูฮยอนและคิมแซรน ถูกพูดถึงควบคู่ไปกับข่าวลือและรายงานที่คาดเดามากมาย เป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างยิ่งสำหรับคิมซูฮยอนและคนรอบข้างเขาและคิมแซรน หลังจากที่สถาบัน Garo Sero เปิดเผยชีวิตส่วนตัวของทั้งสองคน เราเชื่อว่าความคิดเห็นของสาธารณชนที่หลากหลายเกี่ยวกับทางเลือกของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อดีตที่ทั้งพร้อมใจคบหาและเลิกรากันถูกบิดเบือนโดยคนอื่น และยังมีเรื่องโกหกมากมายที่ยังคงแพร่กระจายอยู่ เป็นเรื่องเจ็บปวดอย่างเหลือเชื่อที่คนคนหนึ่งต้องทนทุกข์กับเรื่องทั้งหมดนี้เนื่องจากชีวิตส่วนตัวของพวกเขา นอกจากนี้การเจาะลึกชีวิตส่วนตัวของผู้เสียชีวิตยังเป็นการดูหมิ่นเกียรติของพวกเขาอีกด้วย”..
