วันนี้ (14 มี.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา บางนา จัดแถลงข่าว “อากาศเย็นหลงฤดู” โดยนายนัฐวุฒิ  แดนดี รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ฝ่ายวิชาการ และโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 16-20 มี.ค.นี้ ประเทศไทยตอนบนจะมีสภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลด 5-7 °ซ. ส่วนภาคอื่น ๆ จะลดลง 2-4 °ซ. เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน แต่เนื่องจากขณะนี้ไทยอยู่ในช่วงฤดูร้อน จึงทำให้รู้สึกอากาศเย็นลงวูบวาบ โดยเฉพาะภาคอีสานที่จะได้รับผลกระทบก่อนภาคอื่น ๆ ในช่วงกลางวันที่อุณหภูมิสูงสุดต้นทุนเดิม 38-39 °ซ. อาจจะลดลงเหลือ 30-31 °ซ. ส่วนตอนเช้าอาจลดลงได้อีก 3-6 °ซ.  ซึ่งอุณหภูมิลดฮวบ 3-7 องศาฯ  อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวนที่มีฝนตกหนัก และดูแลรักษาสุขภาพในระยะนี้ไว้ด้วย

“สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากปัจจัย คือ  ‘มวลอากาศเย็นที่เคลื่อนลงมาผ่านประเทศจีน’ เป็นหลัก แต่ปัจจัยทางอ้อมคือ ‘กระแสลมวนขั้วโลก’ (Polar Vortex)  ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่อากาศเย็นขนาดใหญ่ซึ่งหมุนวนอยู่บริเวณขั้วโลกเหนือ โดยปกติจะถูกกั้นไว้ด้วยกระแสลมกรดขั้วโลก (Polar Jet Stream) แต่เมื่อกระแสลมวนขั้วโลกขาดเสถียรภาพ ทำให้กระแสลมกรดถูกรบกวนจนมีกำลังอ่อนลงไปด้วย อากาศเย็นบริเวณขั้วโลกดังกล่าวจึงสามารถแผ่ขยายลงมายังละติจูดต่ำ ๆ ได้ สร้างความหนาวเย็นให้กับเขตพื้นที่ที่อุ่นกว่า อีกทั้งจากภาวะโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยและกรุงเทพมหานครได้รับผลกระทบจาก ‘กระแสลมวนขั้วโลก’ บ้าง แต่ไม่ใช่ผลกระทบโดยตรง เนื่องจากมีเทือกเขาหิมาลัยขวางกั้น แต่ปัจจัยความหนาวเย็นที่สำคัญของไทยคือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมเป็นระลอกๆ ทำให้อุณหภูมิลดลงเป็นระลอกเช่นกัน ระยะเวลาที่อุณหภูมิลดลงรอบนี้จึงยาวขึ้นจากเดิม 2-3 วัน เป็น 3-5 วัน”

นายนัฐวุฒิ  กล่าวต่อว่า  ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประเทศไทยได้สัมผัสอากาศเย็นในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. แต่เคยเกิดขึ้นแล้วในช่วงปี 54 ปี 59 และปี 65 โดยสถิติจากศูนย์ภูมิอากาศ กองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุสภาวะอากาศประเทศไทยเดือน มี.ค. 54 อุณหภูมิต่ำที่สุดวัดได้ 12 °ซ. ที่ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เมื่อวันที่ 17 และ 18 มี.ค. 54 ขณะที่ในพื้นที่ กทม. มีอุณหภูมิต่ำสุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 54 อยู่ที่ 18 °ซ. ต่อมาในเดือน เม.ย. 54 ไทยได้รับอิทธิพลความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปะทะกับมวลอากาศร้อนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นระยะทําให้อุณหภูมิลดลง โดยเฉพาะช่วงปลายเดือน อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 16 °ซ. เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 54 ที่ อ.เมือง จ.เลย

ถัดมาในปี 59 แม้ไทยจะได้รับอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนต่อเนื่อง แต่ก็ยังพบอุณหภูมิต่ำสุดที่วัดได้ 10.2 °ซ. เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 59 ที่ จ.นครพนม โดยหย่อมความกดอากาศต่ำยังคงแผ่อิทธิพลปกคลุมประเทศไทยต่อเนื่องถึงเดือน เม.ย. 59 และในปี 65 ไทยเจออากาศเย็นในฤดูร้อนอีกครั้ง เมื่อวันที่ 2-3 เม.ย.  อุณหภูมิต่ำสุดพื้นราบวัดได้ 14.8 °ซ. ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 65