บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 4/2567 ในงาน “Opportunity Day” ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นำโดย นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร- ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ กลุ่มบริษัทบางกอกกล๊าส, นายวิศาล ลออเสถียรกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร และ นางสาวศิริกุล มังกรกนก รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วเติบโตต่อเนื่อง แม้ตลาดเผชิญความท้าทาย
แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แก้วต้องเผชิญกับภาวะการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ลดลง BGC ยังคงรักษาการเติบโตไว้ได้ โดยมีรายได้รวม 14,416 ล้านบาท ธุรกิจขวดแก้วและบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท คิดเป็น 82% ของรายได้ทั้งหมด และยังสามารถผลักดันกำไรขั้นต้นให้เติบโตขึ้น 10% อยู่ที่ 15.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโต คือ การขยายกลุ่มธุรกิจ Trading หรือธุรกิจซื้อมาขายไป ที่ช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ พร้อมเสริมความสามารถในการจัดหาวัตถุดิบที่มีต้นทุนคุ้มค่า ส่งผลให้รายได้ในไตรมาส 4/2567 เติบโตขึ้นถึง 16% นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการใช้พลังงานทางเลือก และการบริหารสต๊อกสินค้าอย่างเหมาะสม ท่ามกลางการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง
กลยุทธ์ Total Packaging Solutions ต่อยอดการเติบโต
BGC ยังคงเดินหน้าสู่การเป็น Total Packaging Solutions ครบวงจร ไม่เพียงแค่การผลิตบรรจุภัณฑ์ แต่ยังครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบดีไซน์ ไปจนถึงการจัดเก็บและขนส่งสินค้าให้กับลูกค้า ขณะเดียวกัน ธุรกิจ Trading ก็เข้ามาเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน
ต้นทุนพลังงานลดลง ดันต้นทุนการผลิตต่ำสุดในรอบ 3 ปี
ด้วยต้นทุนพลังงานที่ลดลงเกือบ 20% จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงถึง 60% ในปี 2567 ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบหลักอย่าง Cullet และ Soda Ash ก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดียิ่งขึ้น
จับตาดอกเบี้ยขาลง-ปัจจัยเศรษฐกิจโลกในปี 2025
แม้ว่าปีที่ผ่านมา BGC จะได้รับแรงกดดันจากต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น แต่แนวโน้มในปี 2568 คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริหารต้นทุนของบริษัท นอกจากนี้ BGC ยังคงติดตามปัจจัยภายนอกอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลใหม่ และสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ รัสเซีย และยูเครน ที่อาจส่งผลต่อทิศทางตลาดในอนาคต
BGC ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการขยายตลาด เพิ่มศักยภาพธุรกิจ Trading และบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้ถือหุ้นในระยะยาว