เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ศาลาอบรมสงฆ์ วัดสามพระยา มีพิธีมอบตราตั้งพระอุปัชฌาย์ โครงการฝึกอบรมหรือสอบความรู้พระสังฆาธิการทั่วประเทศ เพื่อแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ รุ่นที่ 58 ครั้งที่ 2 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ประธานสมัชชามหาคณิสสร ได้มอบหมายให้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลราม กรรมการ มส. เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ กรรมการ มส. เจ้าคณะใหญ่หนกลาง สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ จ.ตรัง เจ้าคณะใหญ่หนใต้ เจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค ร่วมพิธี

พระธรรมวชิโรดม เจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม เจ้าคณะภาค 6 เป็นตัวแทนเจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค กล่าวรายงานว่า การอบรม หรือสอบความรู้พระสังฆาธิการทั่วประเทศ เพื่อแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ รุ่นที่ 58 ครั้งที่ 2 มีพระสังฆาธิการเข้าร่วมอบรม 232 รูป ผ่านการอบรม 232 รูป แบ่งเป็นประเภทวิสามัญ 11 รูป ประเภทสามัญ 221 รูป ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถวายความอุปถัมภ์ด้านภัตตาหารเช้า เพล น้ำปานะ เครื่องไทยธรรม ย่ามพระปรมาภิไธย ถวายแด่เจ้าคณะพระสังฆาธิการ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นพระอุปัชฌาย์ด้วย

จากนั้นเจ้าคณะใหญ่แต่ละหน ได้มอบตราตั้งพระอุปัชฌาย์ที่ผ่านการอบรม เสร็จแล้ว สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กล่าวให้โอวาท ว่า พระอุปัชฌาย์ เปรียบได้กับพ่อ แม่ ของลูก เมื่อบวชให้พระ เณร แล้ว ต้องดูแล แต่หากเมื่อมีการบวชให้แล้วก็ทิ้งไป จะเป็นดังเช่นคำโบราณที่กล่าวว่า เป็น อุปัชฌาย์เป็ด ที่เมื่อบวชให้พระ เณร แล้ว ก็ทิ้งไป ไม่ดูแล ทั้งนี้เมื่อพระสังฆาธิการได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ บวชให้ พระ เณร แล้ว จะต้องให้การดูแลไปตลอด เหมือนกับพ่อ แม่ ที่ดูแลลูก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้วางหลักไว้ชัดเจนแล้วในการคัดคนที่จะเข้ามาบวชว่าต้องมีมีลักษณะอย่างไร ยิ่งเป็นการบวชพระ ยิ่งควรมีการคัดกรองอย่างดีด้วย จึงขอกำชับให้พระอุปัชฌาย์ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาท เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหาย จึงควรเป็นปราการด่านแรกในการคัดกรองให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย รวมทั้งต้องให้ถูกต้องตามกฎหมาย