สำนักงานประกันสังคมเผยยอดจำนวนผู้ประกันตนสรุปยอดในเดือน ก.พ. 2568 รวม 3 มาตรา รวม 24,776,234 คน แบ่งเป็นมาตรา 33 ผู้ประกันตนในระบบที่มีนายจ้าง จำนวน 12,057,371 คน มาตรา 39 คือลูกจ้างที่ออกจากระบบที่มีนายจ้างแล้วเข้าสู่การประกันตนเอง จำนวน 7,049,727 คน และมาตรา 40 คือผู้ประกันตนเอง จำนวน 1,217,737 คน
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับแบ่งเป็นรายมาตรา ดังนี้ มาตรา 33 จะได้สิทธิที่ประโยชน์ 7 กรณีคือ เงินชดเชยการเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย เงินชดเชยการคลอดบุตร เงินชดเชยทุพพลภาพ เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต เงินสงเคราะห์บุตร เงินบำนาญชราภาพและ เงินชดเชยกรณีว่างงาน
มาตรา 39 จะได้สิทธิประโยชน์ 6 กรณี ประกอบด้วย กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีคลอดบุตร กรณีทุพพลภาพ กรณีการเสียชีวิต กรณีสงเคราะห์บุตร และเงินบำนาญชราภาพ
ส่วนมาตรา 40 ผู้ประกอบอาชีพอิสระจะได้สิทธิประโยชน์ 3-5 กรณี ประกอบด้วย กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย (รับเงินทดแทนการขาดรายได้) กรณีทุพพลภาพ กรณีเสียชีวิต เงินสงเคราะห์บุตรและบำนาญชราภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก เพจสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน – Social Security Office เผยแพร่ไปไม่นาน คนก็แห่เข้าไปคอมเมนต์ถล่มยับ อาทิ ขอปรับปรุงโรงพยาบาลที่รับการรักษา ให้ด้วยนะคะ 1.รอนาน 2.ตรวจรวมกับบัตรทอง 3.ห้องนอนเวลาพักรักษาประกันสังคม 4.เพิ่มคลินิกในการรักษา , ขอคืนเงิน ทำไมช้าจัง, ควรมีเงินปันผลให้ผู้ประกันตนสำหรับเงินส่วนที่เก็บไว้เป็นเบี้ยชราภาพ เหมือนสหกรณ์ต่างๆ ที่เค้าจะมีเงินปันผลคืนให้สมาชิก เพราะเงินเราที่อยู่กับคุณ เราไม่ได้มีสิทธิในการนำมาใช้ได้เลยจนกว่าจะเกษียณ,ควรอย่างยิ่งที่จะต้องจ่ายปันผลคืนให้ผู้ประกันตนถึงจะแฟร์ , เรียกร้องให้ผู้ประกันตนสามารถลงชื่อปลดผู้บริหารได้ ฯลฯ