จากกรณี ช้างป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ใช้งวงและงางัดร่าง นายชัยวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ชาว จ.มหาสารคาม ขณะนั่งท้ายรถกระบะจนร่างตกลงมากระแทกพื้น ก่อนวิ่งหนีเอาชีวิตรอดมาได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายนพพร ประทุมเหง่า ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่าเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 7 (เขาหุบเต่า) ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบช้างป่าออกเดินบนถนนเส้นทางระหว่างด่านพุไทร-ไทรเอน ท้องที่ หมู่ 1 ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พบช้างป่าพลายบุญช่วยกำลังยืนกินเปลือกขนุนที่มีคนลักลอบนำมากองไว้ทิ้งริมถนนเพื่อให้ช้างป่ากิน

โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พบมีการลักลอบนำผลไม้มาทิ้งที่บริเวณถนนเส้นทางนี้อยู่หลายครั้ง บนถนนเส้นทางพุไทร-ไทรเอน ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนที่ตัดผ่านป่า ทำให้มีช้างป่าข้ามถนนไปมาหากินอยู่ในบริเวณนั้น จากที่เคยพบเจอผลไม้ที่นำมาทิ้ง คือ มะม่วงสุก ขนุน มะละกอ แตงโม สับปะรด อ้อย ข้าวโพด และเปลือกทุเรียน ซึ่งหลังจากที่พบ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บออกจากข้างทางทุกครั้ง เพื่อกันไม่ให้เกิดเหตุบนถนน เนื่องจากถนนเส้นนี้มีรถสัญจรไปมาตลอด และไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง

ด้าน นายนพพร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้สั่งการทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ให้มีการลาดตระเวนเข้มงวดกวดขันตรวจตราตามเส้นทางดังกล่าว เพื่อไม่ให้มีการลักลอบนำผลไม้ไปทิ้งอีก เพราะจะทำให้ช้างป่าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมออกจากป่ามายืนรออาหารริมถนน และอาจจะมีการทำร้ายคนเกิดขึ้นได้ หรืออาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้ถนนขับรถชนสัตว์ป่าได้

ทั้งนี้ การให้อาหารสัตว์ป่าผิดพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ มาตรา 20 มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หากเป็นความผิดครั้งแรกปรับ 5 พันบาท ความผิดครั้งที่สอง ปรับ 2 หมื่นบาท และความผิดครั้งที่ 3 ปรับ 1 แสนบาท ฝากถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวหากพบเห็นสัตว์ป่าหรือช้างป่าริมถนน ห้ามบีบแตรใส่ ห้ามเปิดไฟสูงส่องหน้าไล่ช้างป่า พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เข้าใกล้ช้างป่า ถ้ามีจังหวะขับรถผ่านไปได้ให้รีบขับผ่านไป อย่าชะลอถ่ายภาพ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น.