จากกรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อายุ 43 ปี อดีตผู้กำกับ สภ.นครสวรรค์ จำเลยคดีคลุมถุงดำ ฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอภายในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม ช่วงค่ำวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว น.ส.สิภชา แก่นสุวรรณ หรือทราย อายุ 28 ปี แฟนสาวอดีตผู้กำกับโจ้ กล่าวภายหลังยื่นหนังสือถึง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณี ขอให้ตรวจสอบการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ว่า วันนี้มาบอกเล่าข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ที่นอกเหนือจากเอกสารซึ่งเคยยื่นไปก่อนหน้านี้ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และเป็นการทวงความยุติธรรมให้ผู้กำกับโจ้ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเราไม่มั่นใจในการทำงานของตำรวจ เรามั่นใจในการทำงานของตำรวจ แต่อย่างที่เคยบอกไปว่า ในฐานะคนในครอบครัว ก็อยากช่วยเหลือผู้กำกับโจ้ให้ถึงที่สุด อะไรที่ครอบครัวสามารถทำได้ก็จะทำ รวมทั้งอยากให้มีหลายหน่วยงานได้เข้ามาช่วยกันตรวจสอบ ส่วนประเด็นที่ครอบครัวติดใจ คือ ในเรื่องของการเสียชีวิตของผู้กำกับโจ้ และรวมไปถึงกรณีที่ผู้กำกับโจ้ได้ถูกรังแก กลั่นแกล้ง ถูกทำร้ายร่างกาย เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมตามที่ได้มีการเคยร้องเรียนไป ส่วนเรื่องแรงจูงใจ อย่างที่ตนเคยบอกไว้ว่า ผู้กำกับโจ้มีความทุกข์อยู่แล้ว ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ที่ถูกกลั่นแกล้งรังแก มันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย เพราะคนเราไม่ได้ทำผิดแต่กลับถูกเอาไปขังอยู่ในนั้น มันถือว่าเป็นความทุกข์อยู่แล้ว ทั้งนี้ แม้เรื่องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังขอดำเนินการต่อไปในส่วนที่ทำได้

น.ส.สิภชา หรือทราย กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่ทางกรมราชทัณฑ์ได้มีการแถลงชี้แจงผ่านข่าวแจกสื่อมวลชนใน 6 ประเด็นนั้น ตนจะขอพูดในส่วนที่สามารถพูดได้ เพราะกลัวว่าจะมีปัญหากับเรื่องสำนวนในคดี แต่ตนบอกได้เลยว่า เรื่องข้างในเรือนจำมันเป็นแดนสนธยา เขาสามารถจะพูดหรือทำอะไรก็ได้ แต่เรื่องข้างนอก ทางผู้กำกับโจ้ยังคงยืนยันที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะได้ถูกทำร้ายร่างกายและถูกกลั่นแกล้งจากผู้คุมจริง ๆ ซึ่งเป็นการถูกกระทำจากบุคคลคนเดียว คือ ผู้คุมรายดังกล่าว

น.ส.สิภชา หรือทราย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีความประสงค์ที่อยากให้มีการย้าย รรท.ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม และผู้คุมแดน 7 ออกจากพื้นที่เรือนจำกลางคลองเปรมไว้ก่อนนั้น เรายังมีความต้องการดังเดิม วันนี้เราต้องการให้มีการย้ายรักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม (นายเผด็จ หริ่งรอด) และผู้คุมที่ชื่อนายสิทธิพร ให้ออกจากพื้นที่เรือนจำกลางคลองเปรมไปก่อน เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาในเรื่องการสืบพยาน เพราะตนเชื่อว่าเขาสามารถที่จะพูดหรือทำอะไรก็ได้ ขัดขวางการสอบ หรืออื่นใด

เมื่อถามถึงกรณีที่พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ไม่สามารถเข้าไปสอบสวนปากคำพยานภายในเรือนจำกลางคลองเปรมได้ถึงสองครั้ง มันเป็นประเด็นข้อขัดข้องในเรื่องของเอกสารการขออนุญาตจากทางผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมหรือไม่ หรือเป็นเพราะมีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำในขณะนั้น หรือไม่ น.ส.สิภชา หรือทราย กล่าวว่า จริง ๆ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ได้มีการเปลี่ยนมาหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีปัญหาเกิดขึ้น และต้องบอกว่าในการร้องเรียนที่ผ่านมา เราไม่เคยได้รับความเป็นธรรม เพราะเราได้มีการร้องเรียนส่งเอกสารไปยังเรือนจำ จำนวนทั้งสิ้น 4 ครั้ง แต่กลับไม่เคยได้รับความเป็นธรรม

ต่อข้อถามว่า ในวันที่ได้มีการเข้าไปเยี่ยมผู้กำกับโจ้เป็นวันสุดท้าย ทางเจ้าตัวได้ให้ข้อมูลอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.สิภชา หรือทราย กล่าวว่า เขาก็ยังยืนยันว่าให้เรารีบไปดำเนินการเรื่องคดี ให้มีการดำเนินการสอบสวนปากคำ ให้เข้ามาสอบปากคำภายในเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งหากเข้ามาไม่ได้ ก็ดูว่าให้ทนายสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะจริง ๆ มันเป็นสิทธิของเขาอยู่แล้ว ที่เขาจะสามารถแจ้งความ แม้ความจริงเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ไม่มีใครที่สามารถขัดขวางได้ ดังนั้น การที่มาขัดขวางแบบนี้ คือต้องการที่จะปกปิดข้อเท็จจริงหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีการเอาเพื่อนร่วมรุ่นตำรวจของผู้กำกับโจ้เข้าไปเยี่ยมด้วยนั้น ปกติบุคคลดังกล่าว อยู่ใน 10 รายชื่อเยี่ยมญาติอยู่แล้ว เพราะปกติแล้วเพื่อนของผู้กำกับโจ้ ก็ได้เข้าไปเยี่ยม ไปให้กำลังใจ ตามรายชื่อที่ผู้ต้องขังได้มีการอนุญาตอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าในระหว่างที่ผู้กำกับโจ้ ได้ถูกคุมขังอยู่ภายในแดน 7 และย้ายไปยังแดน 5 นั้น ได้มีการใช้ยาปรับสารเคมีในสมองหรือไม่ น.ส.สิภชา หรือทราย กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี เพราะยาปรับสารเคมีในสมองจะเป็นพวกซึมเศร้า และไม่ได้มีการใช้ยาเกี่ยวกับเรื่องของการวิตกกังวล แพนิค ส่วนกรณีที่มีรายงานว่าผู้กำกับโจ้ได้มีการเบิกใช้ยา แล้วเจ้าหน้าที่ต้องมีการนำยาไปจ่ายให้นั้น ปกติแล้วยาที่ผู้กำกับโจ้รับประทานเป็นยานอนหลับ แต่ไม่ใช่ยาที่ทำให้สมองผิดปกติหรืออะไร

“ในเรื่องของความกดดันของผู้กำกับโจ้ ระหว่างที่คุมขังอยู่ในเรือนจำนั้น ก็เป็นเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้ง ก็เป็นสิ่งที่เราพยายามร้องเรียนมาโดยตลอดสองปี แม้ย้ายไปอยู่แดน 5 ก็ยังพบเจอเรื่องดังกล่าว ส่วนความกดดันจะเป็นเหตุจูงใจทำให้ผู้กำกับโจ้ ก่อเหตุฆ่าตัวตายหรือไม่นั้น ก็อย่างที่ตนได้บอกไปว่า การที่ถูกลงโทษโดยไม่มีความผิด อย่างไรก็เป็นความทุกข์” แฟนสาว ระบุเพิ่มเติม

ขณะที่ น.ส.ธนัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของอดีต ผกก.โจ้ เผยว่า กรณีการเสียชีวิตของพี่ชายตนนั้น ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และการสอบสวนปากคำพยาน ส่วนวันนี้เราได้มีการแจ้งข้อมูลและมอบพยานหลักฐานแก่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนการเข้าเยี่ยมญาติของเพื่อนผู้กำกับโจ้ ก็ถือเป็นการเข้าไปให้กำลังใจและสอบถามสารทุกข์สุกดิบ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

เมื่อถามต่อว่าก่อนหน้านี้เมื่อสามปีที่แล้ว ทางญาติได้เคยมีการนำผ้าขนหนูเช็ดตัวสีชมพูขนาดประมาณ 108 ซม. เข้าไปให้กับผู้กำกับโจ้ ภายในเรือนจำกลางคลองเปรมหรือไม่ น.ส.ธนัญญา กล่าวว่า ปกติมันนำเข้าไปให้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ในเรื่องของการฝากเงินให้ผู้ต้องขัง เพื่อไปเบิกซื้อรายการสิ่งของเครื่องใช้ภายในเรือนจำนั้น ก็สามารถดำเนินการได้ เพราะว่าเงินเราได้ฝากเข้าไปเพื่อให้เขาไปจับจ่ายหักเงินในบัญชี แต่ถ้าจะให้เอาสิ่งของจากข้างนอกฝากเข้าไปในเรือนจำไม่สามารถทำได้ ส่วนผู้กำกับโจ้ จะกดซื้ออะไรในเรือนจำ ตนไม่ทราบ.