เมื่อไม่นานมานี้ ธนาคารหลายแห่งในประเทศจีน ตกเป็นเป้าหมายในการบุกรุกเพื่อขโมย “ดิน” ในพื้นที่ธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นดินจากกระถางต้นไม้หรือดินจากพื้นดินในเขตที่ตั้งของธนาคาร

ร้านค้าออนไลน์หลายแห่งในจีน นำดินเหล่านี้มาบรรจุไว้ในถุงขนาดเล็กและนำออกขาย โดยอ้างว่าเป็นเครื่องรางนำโชค ช่วยให้ผู้พกพาร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว โดยมีบางร้านขายดินนำโชคเหล่านี้ ในราคาสูงถึง 888 หยวน (ราว 4,147 บาท) ขณะที่ความต้องการสั่งซื้อก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผู้ขายบางรายถึงกับอวดอ้างว่า ดินนำโชคของทางร้านนั้น “รับประกันอัตราความสำเร็จในการสร้างความมั่งคั่ง 999.999 เปอร์เซ็นต์” ขณะที่บางร้านก็มีการแสดงบันทึกขั้นตอนการเก็บดิน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่า จะได้รับดินที่มาจากที่ตั้งธนาคารของแท้

เว็บไซต์จำหน่ายดินนำโชคแห่งหนึ่ง ถึงกับอ้างว่า ดินนำโชค 4 ประเภทที่ขายนั้น ทางร้านได้รวบรวมมาจากธนาคารใหญ่ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน ธนาคารเพื่อการอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน ธนาคารการเกษตรแห่งประเทศจีน ธนาคารเพื่อการก่อสร้างแห่งประเทศจีน และธนาคารเพื่อการสื่อสาร และเชื่อว่า ดินเหล่านี้สามารถเพิ่มความมั่งคั่งให้ลูกค้าได้

ผู้ขายรายหนึ่งให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเซาท์ไชนา มอร์นิงโพสต์ ว่า “ดินเหล่านี้รวบรวมด้วยมือคนจากธนาคารใหญ่ 5 แห่ง เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความมั่งคั่งและขจัดพลังงานด้านลบได้ แม้ว่าเราจะพิสูจน์เรื่องนี้ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ก็ตาม

“ดินของธนาคาร จะถูกรวบรวมในตอนกลางคืนจากเขตพื้นที่สีเขียวด้านหน้าธนาคารเหล่านี้หลายแห่ง ไม่ใช่มาจากสถาบันการเงินแค่ที่ใดที่หนึ่ง”

เมื่อเรื่องราวของกระแสนิยมนี้ปรากฏบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน ก็กลับกลายเป็นเรื่องขำขันและโดนนำมาล้อเลียนต่างๆ นานา กระนั้นก็ยังคงมีเว็บไซต์ร้านค้าจำนวนมาก ที่ขายดินนำโชคจากธนาคาร สะท้อนว่าเครื่องรางแนวใหม่นี้มีตลาดที่ใหญ่มาก 

ผู้ซื้อดินนำโชครายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเรดสตาร์ นิวส์ ว่า พวกเขาเป็นเจ้าของธุรกิจ และหวังว่าเครื่องรางเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจมีกำไรมากขึ้น และยังเสริมว่า พวกเขามีเพื่อนหลายคนที่ซื้อดินเหล่านี้ไปด้วย

ขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ตจีนหลายคน ที่โพสต์คลิปการขุดดินจากพื้นที่สีเขียวด้านหน้าธนาคารต่างๆ แล้วนำมาบรรจุลงในถุงขนาดเล็กๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์มานานหลายเดือนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถือว่ามีความผิดร้ายแรงเกินกว่าข้อหาทำลายทรัพย์สินสาธารณะ

ที่มา : odditycentral.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES