“กล้วยหอม” ผลไม้สีเหลือง เป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เช่น กล้วยหอมจันท์ กล้วยหอมทอง กล้วยหอมเขียว โดยกล้วยหอมเขียวหรือกล้วยหอมคาเวนดิชเป็นกล้วยหอมที่นิยมปลูกกันโดยทั่วไป จัดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารครบถ้วนตามหลักทางโภชนาการ เช่น มีวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย มีสารแทนนิน ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ Escherichia coli เป็นต้น
กล้วยหอม ถูกจัดเป็นผลไม้เมืองร้อน สามารถปลูกได้เกือบทุกประเทศที่มีภูมิอากาศร้อนชื้นหลายแห่ง สำหรับประเทศไทย สามารถปลูกกล้วยหอมได้ทั่วทุกภาค
แน่นอนว่า หลายคนคงเคยกินกล้วยหอม หรือทานเป็นประจำทุกวัน รู้ว่ามีประโยชน์ แต่มีประโยชน์อย่างไร ไปดูกัน
แหล่งพลังงานชั้นดี
- กล้วยหอมเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานแก่ร่างกายอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับรับประทานก่อนหรือหลังออกกำลังกาย
บำรุงหัวใจ
- โพแทสเซียมในกล้วยหอมช่วยควบคุมความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
เสริมสร้างระบบย่อยอาหาร
- ใยอาหารในกล้วยหอมช่วยในการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูก
บำรุงสมอง
- วิตามินบี 6 ในกล้วยหอมมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง
คลายเครียด
- ทริปโตเฟนในกล้วยหอมช่วยกระตุ้นการผลิตเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้อารมณ์ดีและผ่อนคลาย
แม้ประโยชน์จาก “กล้วยหอม” จะมีมากมาย แต่การรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
น้ำหนักขึ้น
- กล้วยหอมมีปริมาณน้ำตาลและแคลอรีสูง การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้
ระดับโพแทสเซียมสูง
- ในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต การรับประทานกล้วยหอมมากเกินไปอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
นอกจากนี้แล้ว “กล้วยหอม” อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วย
โรคไต
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตควรจำกัดปริมาณการรับประทานกล้วยหอม เนื่องจากมีโพแทสเซียมสูง
โรคเบาหวาน
- ผู้ที่มีโรคเบาหวานควรระมัดระวังในการรับประทานกล้วยหอม เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลสูง
อย่างไรก็ดี การรับประทานกล้วยหอมมาก อาจทำให้ท้องอืดหรือท้องเสียได้ เนื่องจากกล้วยหอมมีไฟเบอร์สูง.