เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบ่อขยะบน “เกาะเต่า” อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่าส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากนี้หากเกิดฝนตกขึ้นมาทำให้นํ้าเสียจากบ่อขยะไหลลงสู่ทะเล สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศทางทะเล และยังทำให้ภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวระดับโลกเสียหายไปด้วย
จากการสำรวจพบว่ามีปริมาณขยะจำนวนมากกองสุมล้นจนเป็นภูเขานับหมื่นตัน ส่งกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง โดยพบสัตว์มากมาย อาทิ หนู แมลงสาบ และแมลงวัน รุมตอมจนเป็นภาพที่น่าสะอิดสะเอียน นอกจากนี้ยังมีการทิ้งขยะเรี่ยราดทั้งสองข้างทาง โดยพบว่าปัญหาดังกล่าวได้เรื้อรังมานานนับปี ซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด
ขณะที่นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เผยว่า ตนเองเพิ่งได้มาเที่ยวเกาะเต่าเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนมาได้เห็นภาพท้องทะเลที่สวยงาม โดยอยากมาดูให้เห็นกับตาพร้อมอยากดำนํ้าชมสัตว์ทะเล ต่อมากลับได้พบกับกลิ่นที่เหม็นเน่าโชยอย่างรุนแรงเป็นระยะๆ ซึ่งมารู้ภายหลังว่ามาจากบ่อขยะ อาจจะมีผลกระทบต่อสุขภาพและโรคภัยต่างๆ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ให้สมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีหลายท่าน ได้มีการพยายามแก้ไขปัญหาขยะล้นบน “เกาะเต่า” ต่อมาได้มีการสร้างเตาเผาและฝังกลบ แต่ในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาที่เกาะเต่ามากกว่า 3 ล้านคน/ปี จนมีปัญหาปริมาณสะสมของขยะเป็นจำนวนมาก หากยังเพิกเฉยปล่อยทิ้งไว้ อาจจะนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ในอนาคต ทั้งด้านสุขภาพและการท่องเที่ยว ขณะที่การรณรงค์คัดแยกขยะของเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น ที่ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวช่วยกันคัดแยกขยะ ยังไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร.