เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี พาด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมือง จ.นครพนม ก่อนพาไปตรวจร่างกายที่ รพ. โดยทั้งสองแจ้งความระบุว่า ด.ญ.บี ได้ถูก นายวิน (สงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 41 ปี ชาวสปป.ลาว ผู้เป็นพ่อแท้ ๆ ข่มขืนต่อเนื่องหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปคุมตัวมาสอบสวน โดยพบว่า นายวิน พักอาศัยในไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่ง เบื้องต้นให้การวกไปวนมาคล้ายคนเสพยาเสพติด เมื่อตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหา ความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด และ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองไว้ก่อน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายวิน ได้อยู่กินกับ น.ส.สวย (นามสมมุติ) จนกระทั่งมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ภายหลัง นายวิน กลับต้องคดีถูกจับติดคุกยาว ทำให้ น.ส.สวย แยกทางไปมีครอบครัวใหม่อยู่ภาคใต้ พร้อมพาลูกชายคนโตไปอยู่ด้วย ขณะ นางเอ ผู้เป็นน้าสาวรับเลี้ยง ด.ญ.บี เป็นเหมือนลูกสาวแท้ ๆ โดยให้พักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านยาย เวลาผ่านไป นายวิน ออกจากคุกได้เพียง 1 ปี ก็กลับมาหาลูกสาว ระยะแรกทำตัวเป็นพ่อดูแลลูกเป็นอย่างดี ทำให้น้าและญาติ ๆ ไว้วางใจ

แต่พอระยะหลังเรื่องกลับตาลปัตร เมื่อ ด.ญ.บี มีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริงเหมือนเก่า และสุดท้ายเด็กยอมบอกกับน้าสาวว่า ถูกพ่อแท้ ๆ เสพยาบ้าแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ จากนั้นก็ล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งในบ้านพัก 2 ครั้ง ในไซต์งานก่อสร้างอีก 3 ครั้ง เหตุเกิดเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังเสร็จกิจมีการข่มขู่ไม่ให้เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร มิเช่นนั้นจะฆ่ายกครัวและเผาบ้านที่มีสมาชิกอยู่กัน 7 คน โดยคดีนี้ นางเอ ยืนยันว่าจะเอาเรื่องพ่อให้ถึงที่สุด ทางเจ้าหน้าที่จะประสานสหวิชาชีพมาสอบสวนดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.