สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่า ทรัมป์กล่าวต่อเหล่านักลงทุนระดับสูงด้านสกุลเงินดิจิทัลว่า “เมื่อปีที่แล้ว ผมสัญญาว่าจะทำให้สหรัฐเป็นมหาอำนาจด้านบิตคอยน์ของโลก และเป็นเมืองหลวงของคริปโต และเรากำลังดำเนินการครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อส่งมอบคำมั่นสัญญานั้น”
ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมการหารือกับทรัมป์ รวมถึงผู้ก่อตั้ง ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และนักลงทุนด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีชื่อเสียง พร้อมทั้งสมาชิกในคณะทำงานของทำเนียบขาว ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพื่อร่วมกันร่างนโยบายผลักดันการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัล
รายชื่อแขกของการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ได้แก่ นายคาเมรอน และไทเลอร์ วินเคิลวอส ฝาแฝดผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลเจมีไนน์ (Gemini) นายไบรอัน อาร์มสตรอง ผู้ก่อตั้งคอยน์เบส (Coinbase) และนายไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้ลงทุนบิตคอยน์รายใหญ่ และผู้บริหารของไมโครสเตรทเตจี (MicroStrategy)
ทรัมป์ย้ำว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อเมริกาจะปฏิบัติตามกฎที่นักลงทุนบิตคอยน์ทุกคนรู้ดี คือการ “ไม่ขายบิตคอยน์ทิ้ง” และยืนยันที่จะไม่ขายสกุลเงินดิจิทัลทิ้งอย่างโง่เขลา เหมือนรัฐบาลวอชิงตันในอดีต
นายเดวิด แซคส์ ประธานสภาที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของทำเนียบขาว ในฐานะ “ผู้ควบคุมสกุลเงินดิจิทัล” ของรัฐบาลสหรัฐ กล่าวว่า หากรัฐบาลชุดก่อน ยังคงถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้จะมีมูลค่าถึง 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 573,240 ล้านบาท) ในปัจจุบัน
แซคส์ กล่าวเสริมว่า การที่รัฐบาลยอมรับอุตสาหกรรมนี้ ไม่ใช่การให้คำแนะนำในการลงทุน พร้อมทั้งเตือนว่า สกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนสูง และเขาสนับสนุนให้ชาวอเมริกันหารือกับผู้ให้ปรึกษาด้านการลงทุน ก่อนเข้าสู่ตลาด “งานของผมไม่ใช่การกระตุ้นให้ผู้คนซื้อคริปโต แต่คือการสร้างกรอบนวัตกรรมสำหรับอเมริกา”.
เครดิตภาพ : AFP
