สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า “กำลังพิจารณาอย่างถี่ถ้วน” เกี่ยวกับ “การขยายขอบเขตมาตรการคว่ำบาตร” รวมถึงการเพิ่มกำแพงภาษีต่อรัสเซีย เนื่องจากรัฐบาลมอสโกกำลัง “ปูพรมถล่มยูเครนในสมรภูมิ”
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน ทรัมป์กลับกล่าวว่า ยังคงมีความเชื่อมั่นในตัวของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และมองว่า การเจรจากับยูเครนนั้น “ยุ่งยากกว่า” เมื่อเทียบกับการหารือกับรัฐบาลมอสโก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศกลับมาร่วมการเจรจา “ก่อนจะสายเกินไป”
"Based on the fact that Russia is absolutely 'pounding' Ukraine on the battlefield right now, I am strongly considering large scale Banking Sanctions, Sanctions, and Tariffs on Russia until a Cease Fire and FINAL SETTLEMENT AGREEMENT ON PEACE IS REACHED. To Russia and Ukraine,… pic.twitter.com/kwrfbaQw4d
— President Donald J. Trump (@POTUS) March 7, 2025
ด้านรัสเซียยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับท่าทีดังกล่าวของผู้นำสหรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นหลังทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แต่งตั้งนายอเล็กซานเดอร์ ดาร์ชิเยฟ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐคนใหม่
ขณะที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซีย กับนายมาร์โก รูบิโอ รมว.การต่างประเทศสหรัฐ ที่กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา และคณะผู้แทนของทั้งสองประเทศหารือร่วมกันอีกครั้ง ที่เมืองอิสตันบูลของตุรกี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดาร์ชิเยฟ เป็นหนึ่งในนักการทูตอาวุโสและมากความสามารถของรัสเซีย เข้ามาทำงานให้กับกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อปี 2535 และได้รับมอบหมายงานแล้วหลายตำแหน่ง โดยตำแหน่งล่าสุดคือ ผู้อำนวยการสำนักงานอเมริกาเหนือ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย.
เครดิตภาพ : AFP