สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหลายแห่งในประเทศ ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่รอบใหม่โดยกองทัพรัสเซีย และเรียกร้อง “การหยุดยิงทางอากาศร่วมกัน” พร้อมทั้งยืนยันว่า ยูเครนต้องการสันติภาพ การจะยุติสงครามครั้งนี้ได้ คือต้องหยุดยั้งการโจมตีของรัสเซีย
ทั้งนี้ กองทัพยูเครนรายงานว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 58 ลูก และอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน อีกเกือบ 200 ลำ โจมตีโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับพลังงาน ในภูมิภาคทางตะวันออกของยูเครน รวมถึงที่เมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ
Last night, the Russian army carried out another massive attack on our energy infrastructure. Various facilities were targeted in several regions – Odesa, Poltava, Chernihiv, and Ternopil. In total, the Russians used nearly 70 missiles, both cruise and ballistic, as well as… pic.twitter.com/bpj5XCPYSW
— Volodymyr Zelenskyy / Володимир Зеленський (@ZelenskyyUa) March 7, 2025
อย่างไรก็ตาม กองทัพยูเครนเปิดเผยด้วยว่า มีการใช้เครื่องบินดาโซมิราจ 2000-5 ซึ่งได้รับจากฝรั่งเศส เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ปฏิบัติการต่อต้านกองทัพรัสเซียเป็นครั้งแรกด้วย
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ ยืนยันการเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตี “อย่างจำเพาะเจาะจง” ต่อเป้าหมายเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครน “เนื่องจากเป็นสถานที่ซึ่งสนับสนุนกองทัพยูเครน”
อีกด้านหนึ่ง คณะผู้แทนเจรจาของสหรัฐและยูเครน เตรียมพบหารือกันที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย ในวันอังคารที่ 11 มี.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรก หลังเกิดเหตุปะทะคารมกันอย่างดุเดือด ระหว่างเซเลนสกีกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา.
เครดิตภาพ : AFP