เมื่อวันที่ 7 มี.ค. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ., พล.ต.ต.สรัลพัฒน์ ยศสมบัติ ผบก.กต.2 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล ร่วมกันแถลงผลการตรวจค้นจับกุมแหล่งซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ภายในบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี

พล.ต.ต.โชติวัฒน์ กล่าวว่า การตรวจค้นในครั้งนี้ เป็นการขยายผลการตรวจค้นและจับกุมผู้ดูแลโกดังบุหรี่ไฟฟ้าที่ย่านบางแค เมื่อวันเสาร์ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นสามารถตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้ จำนวน 343,600 ชิ้น มูลค่ารวม 30 ล้านบาท โดยตำรวจสืบสวนจนทราบว่า ขบวนการนี้นำบุหรี่ไฟฟ้ามาเก็บพักคอยไว้ที่จุดนี้ โดยทันทีที่เข้าตรวจค้น มีชาย 2 คน แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน และให้การว่า เพิ่งจะเริ่มทำมาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น

โดยขบวนการนี้จะนำบุหรี่ไฟฟ้าจากร้านค้า 8 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มาเก็บพักคอยไว้ที่จุดนี้ เพื่อหลบเลี่ยงการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ทราบตัวนายจ้างแล้ว เป็นคนไทย และยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยทางตำรวจจะมีการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำตัวนายทุนที่เป็นผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ามาลงโทษตามกฎหมาย 

เบื้องต้น ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.กรมศุลกากร, พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ และ พ.ร.บ.อาหารและยา พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบและทิ้งและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 35,600 กว่าชิ้น มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการส่งของกลางไปตรวจสอบน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีการปนเปื้อนของสารเสพติด หรือสารต้องห้ามด้วยหรือไม่

ขณะที่ 1 ในผู้ต้องหาระบุว่า ตัวเองเพิ่งทำมาเพียงแค่ 6-7 เดือนเท่านั้น โดยมีเพื่อนแนะนำให้ทำ ซึ่งหน้าที่หลักคือจะเป็นคนไปรับบุหรี่ไฟฟ้ามาเก็บไว้ที่บ้านพัก และนำไปส่งตามร้านต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำบ่อยครั้ง บางวันก็ขนบุหรี่ไฟฟ้าวันละ 1-2 ครั้ง ไปส่งตามคำสั่งซื้อ เมื่อคืนก็เพิ่งไปรับบุหรี่ไฟฟ้ามา ยอมรับรู้ว่าผิดกฎหมาย มีงานประจำที่ทำอยู่แล้ว แต่ที่รับงานนี้มาทำเพิ่ม เพราะรายได้ดี ตกเดือนละ 20,000 บาท

ด้าน พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา พื้นที่ใกล้โรงเรียนหรือสถานศึกษา รวมถึงสถานบริการ สถานประกอบการ และพื้นที่สาธารณะในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเอง หรือผู้อื่น สร้างความเดือดร้อน รำคาญแก่ประชาชนใกล้เคียง

ซึ่งรัฐบาล โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความสำคัญต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว จึงกำหนดนโยบายให้มีการระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในทุกมิติ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วย ระดมกำลังกวาดล้างจับกุมในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด และติดตามการขับเคลื่อนให้มีผลการปฏิบัติในทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรม.