ภายหลังวันที่ 6 มี.ค. ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติเห็นชอบให้รับคดีความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ในคดีฮั้ว สว. 67 ไว้เป็นคดีพิเศษ ด้วยมติชี้ขาด 11 เสียง จากทั้งหมด 18 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มี.ค. แหล่งข่าวภายในบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีมีมติชี้ขาดให้รับคดีฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ว่า สืบเนื่องจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ ได้เสนอในที่ประชุมบอร์ด กคพ. ให้มีการชี้ขาดคดีฟอกเงิน ว่า มีทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไปหรือไม่ เพราะมีอนุกรรมการฯ บางท่านสงสัย ซึ่งมีพยานเคยให้การไว้หลายปากว่ามีเงินเกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือก สว. ระดับอำเภอ และจนถึงหลังจบการเลือก สว. ระดับประเทศ ทั้งนี้ บอร์ด กคพ. ได้มีการเสนอความคิดเห็นหลากหลายแตกต่างกัน บางท่านว่ามูลค่าเกิน 300 ล้านบาท แต่บางท่านว่าไม่ถึง 300 ล้านบาท
แหล่งข่าวบอร์ด กคพ. เผยอีกว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุมบอร์ด กคพ. มีการพิจารณารายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ตามลำดับ ก่อนจะไปพิจารณาตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) โดยคดีฟอกเงินทางอาญา ถือเป็นความผิดตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 จึงได้มีการวินิจฉัยให้รับคดีฟอกเงินไว้เป็นคดีพิเศษไว้สอบสวนก่อน และก็ต้องมีการขยายผลเส้นทางการเงินทั้งหมด แต่ยังไม่ดำเนินคดีเอาผิดกับบุคคลใด
แหล่งข่าวบอร์ด กคพ. เผยต่อว่า ส่วนเหตุคดีฟอกเงิน มีการโหวตในบอร์ด กคพ. เพื่อชี้ขาดว่าถึงหรือไม่ถึง 300 ล้านบาท ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยใช้มติเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุม ซึ่งผ่านมติด้วยเสียง 11 ต่อ 4 เสียง ว่ามีมูลค่าเกิน 300 ล้านบาท และเสนอให้อธิบดีดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษตามอำนาจหน้าที่ แต่ถ้าไม่ถึงกึ่งหนึ่งก็ต้องโหวตตามมติ 2 ใน 3 คือ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) ทั้งนี้ ในที่ประชุมบอร์ด กคพ. มีการเสนอความผิดอาญาอื่น อาทิ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 (ฐานอั้งยี่) และความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ซึ่งไม่เข้าความผิดตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษฯ เนื่องด้วยเป็นความผิดทางอาญาอื่น แต่พนักงานสอบสวนสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ภายหลัง หากมีหลักฐานเพียงพอ และไม่ต้องเสนอเข้าบอร์ด กคพ. อีกแล้ว.