เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 68 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากตนไปตอบกระทู้ของ สส.พรรคประชาชน เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาราคาข้าวเปลือก และการส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตรกร มีคนแปลความหมายของตนผิดไปในลักษณะว่า “พิชัยแนะให้ปลูกกล้วยแทนข้าวส่งขายญี่ปุ่นได้ราคาดี”
ถ้าย้อนกลับไปดูคลิป ตนไม่ได้พูดเพื่อให้ตีความหมายกันไปเช่นนั้น คือหลังจากอธิบายมาตรการการช่วยเหลือชาวนาไปอย่างครบถ้วนแล้วว่ารัฐบาลจะช่วยอะไรบ้าง และเมื่อไหร่ ตนก็แจ้งข่าวเพิ่มเติมว่ากระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าผลักดันส่งออกกล้วย หลังจากพบว่าญี่ปุ่นมีความต้องการนำเข้ากล้วยสูงถึง 1 ล้านตันต่อปี แต่ไทยสามารถส่งออกได้เพียง 2,000-3,000 ตัน จากโควตาทั้งหมด 8,000 ตัน โดยขณะนี้มีการทดลองปลูกกล้วยใน จ.นครราชสีมา แล้ว 150,000 ต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายพื้นที่เพาะปลูก โดยคาดว่าหากดำเนินการสำเร็จ เกษตรกรไทยจะมีรายได้เฉลี่ยสูงถึง 100,000 บาทต่อไร่ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับชาวนาและเกษตรกร ที่ต้องการปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวไปสู่พืชที่มีมูลค่าสูงขึ้น
“ผมไม่ได้พูดถึงขนาดว่าถ้าข้าวราคาไม่ดีให้ปลูกกล้วย เพียงแค่ต้องการแจ้งข้อมูล เพื่อเป็นทางเลือกและโอกาสให้พี่น้องเกษตรกรเท่านั้น และกล้วยเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีโอกาสทางการตลาดสูง รายได้ต่อไร่สูง เหมือนกับพืชตัวอื่นๆ ที่ตลาดมีความต้องการสูง เช่น มะพร้าวน้ำหอม ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะถั่วเหลือง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เรายังต้องนำเข้าปีละหลายล้านตัน พืชที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับพี่น้องเกษตรกรที่ต้องการเปลี่ยนแปลง ตนเห็นหลายพื้นที่ ในหลายจังหวัด พี่น้องชาวนา ชาวไร่มันสำปะหลัง ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นบ้าง ที่ใช้น้ำน้อย เก็บขายได้เร็ว ได้ราคาดี ถือเป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชม” นายพิชัย กล่าว