ผลการสำรวจประชากรอเมริกันทั่วไป 2,000 คนโดยทอล์เกอร์ รีเสิร์ช ในกรณีศึกษาที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาล่าสุด พบว่า มีคนอเมริกันที่ปัสสาวะในระหว่างอาบน้ำแบบใช้ฝักบัวเป็นประจำทุกวัน คิดเป็นอัตราส่วน 12% ในขณะที่อีก 12% ทำเพียงสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ประมาณ 1 ใน 4 ของกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลยอมรับว่า การปัสสาวะระหว่างอาบน้ำเป็นกิจวัตรประจำวัน ขณะที่กลุ่มคนเจเนอเรชันเอ็กซ์มีเพียง 13% และกลุ่มเบบี้บูมเมอร์มีเพียง 6% ที่ทำพฤติกรรมดังกล่าว
หากแยกตามเพศจะพบว่า ผู้ชาย 30% ปัสสาวะลงพื้นระหว่างอาบน้ำเป็นประจำ ส่วนผู้หญิงนั้น มีเพียง 20% ที่ทำเช่นเดียวกัน และเมื่อคิดเป็นค่าเฉลี่ยแล้ว ชาวอเมริกัน 45% ปัสสาวะระหว่างอาบน้ำ
คลินท์ ไครเดอร์ นักบำบัดด้านการสมรสและครอบครัวที่มีใบอนุญาตวิชาชีพ เสนอข้อมูลเชิงจิตวิทยาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่แม่บ้านจำนวนมากมองว่าเป็นเรื่องสุดจะทนนี้
“การปัสสาวะในห้องอาบน้ำมักสะท้อนถึงความหมกมุ่นของเราในยุคปัจจุบันเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่ควรจะพักผ่อน” ไครเดอร์กล่าว “สำหรับบางคนแล้ว การทำเช่นนี้ถือเป็นการต่อต้านกฎเกณฑ์ทางสังคมแบบห่ามๆ แต่สำหรับบางคนกลับถือเป็น ‘การทำกิจกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ’ ทำไมต้องรอในเมื่อคุณอยู่ในจุดที่ทำได้? อย่าลืมว่าการอาบน้ำเป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่ที่เราสามารถอยู่กับตัวเองได้อย่างแท้จริง หากการปัสสาวะรดตัวเพียงเล็กน้อยทำให้คุณรู้สึกเป็นอิสระ ก็ทำไปเลย”
ไครเดอร์อธิบายว่า ลักษณะนิสัยที่เราทำเวลาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวมักสะท้อนถึงวิธีการจัดการกับความเครียดของเรา หากการปัสสาวะระหว่างอาบน้ำกลายเป็นความต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากทุกวินาทีให้เต็มประสิทธิภาพ นั่นอาจเป็นสัญญาณของความวิตกกังวลที่ลึกลงไปว่า เรารู้สึกว่ามีเวลาไม่พอที่จะทำสิ่งต่างๆ
สำหรับกลุ่มผู้หญิงนั้น ไครเดอร์ชี้ว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเคยเตือนไว้ได้ถูกต้องแล้วว่า การปล่อยหรือการเบ่งปัสสาวะขณะอาบน้ำอาจทำให้กล้ามเนื้อตึงโดยไม่จำเป็น
ผลการสำรวจยังสรุปได้ว่า มีเพียง 39% เท่านั้นที่ระบุว่าพวกเขาเป็นผู้ใช้ห้องอาบน้ำเพียงคนเดียว ขณะที่ 41% บอกว่า ใช้ห้องน้ำร่วมกับคู่รักหรือคู่ชีวิต และ 18% ระบุว่า ใช้ห้องน้ำร่วมกับลูกๆ นอกจากนี้ยังพบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ชาวอเมริกันทำความสะอาดห้องอาบน้ำเพียง 9 ครั้งต่อปี
นอกเหนือจากการปัสสาวะระหว่างอาบน้ำแล้ว ชาวอเมริกันยังชอบทำกิจกรรมอื่นๆ ขณะทำความสะอาดร่างกาย ได้แก่ ร้องเพลง (27%), วางแผนสำหรับวันรุ่งขึ้น (23%) และคิดทบทวนถึงวันที่ผ่านมา (19%) โดยมีคนรุ่นมิลเลนเนียลเกือบหนึ่งในสี่หรือประมาณ 23% พบว่า ตนเองมักคิดถึงเรื่องงานหรือร้องไห้ (15%)
ผลการศึกษายังพบอีกด้วยว่าชาวอเมริกันเชื่อว่าการอาบน้ำโดยเฉลี่ยควรใช้เวลาเพียง 13 นาที แต่เฉพาะคนรุ่นมิลเลนเนียลเชื่อว่า การอาบน้ำควรใช้เวลาโดยเฉลี่ย 17 นาที ถึงจะดี
ที่มา : nypost.com
เครดิตภาพ : PublicDomainPictures from Pixabay