เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหาย เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้ตรวจสอบการรักษาของ กลุ่ม “คลื่นพลังบุญ” ที่อ้างว่าสามารถรักษาโรคได้ด้วยพลังวิเศษ โดยไม่ต้องใช้ยา และผู้ที่ไม่หายป่วย เป็นเพราะขาดความเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ ทำให้มีผู้หลงเชื่อและอาการทรุดหนักลง นอกจากนี้ ยังมีครอบครัวของช่างปั้นที่ขอให้ทีมสาธารณสุขช่วยเหลือ เนื่องจากเชื่อว่ามารดาอาจมีอาการทางจิตร่วมด้วย และต้องการให้ติดตามเพื่อนำมารักษา

ดร.ธนกฤต กล่าวว่า กระทรวงฯ เคยมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว หากยังคงกระทำอีก จะต้องถูกดำเนินคดี วิธีการของกลุ่ม “คลื่นพลังบุญ” เข้าข่ายการประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต การอ้างว่าสามารถใช้คลื่นพลังบุญรักษามะเร็งได้นั้น ไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ และส่งผลเสียต่อผู้ป่วยที่อาจหยุดการรักษาแผนปัจจุบัน ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าทั้งสองคนไม่คิดที่จะแก้ไข และยังมีการพูดคุยเรื่องทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงและฉ้อโกง

ดังนั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะดำเนินการออกหมายเรียกเพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงขอเตือนประชาชน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องแบบนี้ ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง

ดร.ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า หากประชาชนพบผู้แอบอ้างเปิดสถานพยาบาลเถื่อนหรืออ้างตนเป็นหมอเถื่อน สามารถแจ้งเรื่องได้ กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย การรักษาที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลเสียต่อร่างกายและชีวิตได้ การห้ามผู้ป่วยรับยาตามแพทย์สั่งเป็นการหักล้างการวินิจฉัยโรค และทำให้ร่างกายเสียสมดุล ซึ่งจะนำไปสู่โรคต่างๆ มากมาย กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการตรวจสอบการเปิดสถานพยาบาลผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดและเด็ดขาด โดยมีโทษจำคุก 5 ปี

นายวิทยา ปัชชาบุตร อดีตลูกศิษย์กลุ่ม “คลื่นพลังบุญ” เล่าว่า ตนเคยเข้ารับการรักษาด้วยคลื่นพลังบุญ หลังจากที่ตับอ่อนเสียหาย อาจารย์หมออ้างว่าสามารถใส่ตับทิพย์ให้ได้ และห้ามรับประทานยา ตนหลงเชื่อและหยุดรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง แต่อาการกลับทรุดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ฟังข้อมูลจากผู้อื่น จึงฉุกคิดได้ว่าทุกอย่างเป็นเรื่องไม่จริง

ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตนได้พาอดีตลูกศิษย์กลุ่ม “คลื่นพลังบุญ” ที่เคยอยู่ด้วยกันมาให้ข้อมูล กลุ่ม “คลื่นพลังบุญ” อ้างว่าสามารถรักษาโรคได้ โดยให้เวลาผู้ป่วยตัดสินใจเพียง 3 วินาที หากบอกว่าไม่หาย จะถูกกล่าวหาว่าไม่เชื่อมั่นในอาจารย์ ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ตอบว่าหายเพราะกลัว แต่แอบรับประทานยา เท่าที่ทราบมีผู้ป่วยมะเร็งที่ถูกห้ามรับประทานยา ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ วันนี้ยังมีกรณีของพี่ซาร่าที่ตับเสียหาย และลุงอ้อที่ต้องการให้ภรรยาได้รับการตรวจอาการทางจิต ตนจึงได้พาผู้เสียหายมาพบ ดร.ธนกฤต เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย หากปล่อยไว้ อาจมีผู้เสียชีวิตจากกรณีเช่นนี้อีก.