เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 68 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี (TJA 70th Anniversary Talk) โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ THAILAND VS GLOBEL โอกาสและความท้าทายในภูมิทัศน์โลก ว่า ตนเป็นมิตรที่ดีกับนักข่าวเสมอ ไม่เคยหนีนักข่าว เพราะเป็นช่องทางสำคัญที่เราได้มีโอกาสสื่อสาร เราสามารถส่งสารผ่านสื่อไปให้สังคม และประเทศได้รับรู้ ถือว่าเป็นเกียรติ และตนเห็นความสำคัญของอาชีพสื่อมวลชนจะทำให้โลกขยับขยาย พัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีได้
ในโอกาสวันนักข่าว 5 มีนาคม ถือเป็นวาระสำคัญของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน และสมาคมนักข่าวฯ ครบรอบ 70 ปี ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับองค์กรวิชาชีพที่มีบทบาทสำคัญในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในการสร้างสรรค์สังคมและทำหน้าที่ตรวจสอบนำไปสู่การก้ไขปัญหาและการสร้างความยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำของสังคม

โอกาสและความท้าทายในภูมิทัศน์โลก ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคของความเปลี่ยนแปลงอย่างในปัจจุบัน โลกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ การเปลี่ยนแปลงทุกวันนี้เกิดทั้งจากธรรมชาติ และฝีมือมนุษย์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติแยกไม่ออกจากฝีมือมนุษย์ ส่งผลให้ธรรมชาติกลับมาส่งผลกระทบกับวิถีของประชาชน รวมถึงชีวิตพวกเราด้วย
ต้องยอมรับว่าวันนี้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงจากมนุษย์ และธรรมชาติ มาก ยังไม่นับรวมความสัมพันธ์ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ซึ่งภูมิทัศน์เปลี่ยนแปลงไป สร้างปัญหาให้เกิดขึ้น ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งของสมาคมโลก ปฏิเสธไม่ได้เรากำลังเผชิญคลื่นแห่งความเปลี่ยนแปลงจากทุกมิติ เราอยู่ในจุดยืนที่ต้องทบทวนถามตนเอง และถูกเรียกร้องให้เผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงอย่างไม่อาจนิ่งเฉยหรือหลีกเลี่ยงได้ สิ่งนี้คือกระแสพลวัตรที่รุกประชิดตัวเราในหลายๆ ด้าน
“เรากำลังอยู่ในยุคการแข่งขันที่ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจแต่แข่งขันในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และอุบัติภัยที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ และการเปลี่ยนที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ เช่น ยาเสพติด การเผาป่า หรือ แม้กระทั่ง PM2.5 ยาเสพติด คอลเซนเตอร์ เป็นผลกระทบไม่เฉพาะประเทศไทย แต่เป็นผลกระทบต่อประชาคมโลก ซึ่งไทยกำลังปราบปรามอย่างเต็มที่” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า บทบาทของสื่อมวลชนในโลกที่เต็มไปด้วยภัยคุกคามและปัญหาสังคม ต้องยอมรับว่าสื่อมวลชนเป็นวิชาชีพและเป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาของประเทศ สื่อมวลชนควรเป็นผู้ส่งสารที่เป็นทั้งข้อมูลและข้อเท็จจริงในการเผชิญหน้าภัยคุกคามของสังคมไทย
เรากำลังเผชิญวิกฤตใหม่หลายรูปแบบที่ประชาชนยังตามไม่ทันกับความท้าทายเหล่านี้ ทั้งอาชญากรข้ามชาติ เศรษฐกิจใต้ดิน การบิดเบือนข้อมูลและภัยคุกคามไซเบอร์ ซึ่งส่งผลให้เกิดแนวโน้มที่รุนแรงระหว่างความคิดที่แตกต่างกันจนอาจจะนำไปสู่การแบ่งแยกทางสังคม นำไปสู่สังคมที่แตกแยกและรุนแรงได้
และสื่อมวลชน ควรเป็นผู้วิเคราะห์ข้อมูลและเสนอทางเลือกของความจริงที่หลากหลาย เพื่อสร้างชุดความรู้ให้ประชาชนเข้าถึงความจริงในสถานการณ์ของการเปลี่ยนแปลงในโลก การทำหน้าที่ปลุกสร้างจิตสำนึกใหม่ทางสังคม ด้วยข้อเท็จจริงมากกว่าเพิ่มยอดเอนเกจเมนต์ที่เพิ่มยอดผู้ติดตามแต่ให้ข้อเท็จจริงไม่หมด และทำให้ข้อเท็จจริงที่สื่อสารเต็มไปด้วยความเห็นและความรู้สึกส่วนตัวและทำให้กระแสความขัดแย้งของสังคมเพิ่มขึ้นจนเกิดอคติต่อกัน จนนำไปสู่ทิศทางที่ไม่พึงปรารถนาได้
ในฐานะที่สื่อเป็นที่ยอมรับของสังคมและมีบทบาทหน้าที่ชี้นำสังคมได้ อยากให้สื่อมวลชนใช้ความซื่อตรงมาดำเนินการในการแก้ไขปัญหา วิเคราะห์ความเป็นจริงให้มากที่สุด

“ผมไม่คิดว่าท่านต้องไปเอาใจผู้มีอำนาจ เพราะประวัติศาสตร์ของสมาคมนักข่าว ประวัติศาสตร์ของนักสู้ ในบทบาทสื่อมวลชนตราบที่ยาวนานมา ผมอยากเห็นการพัฒนา ทุกๆ วิชาชีพ ถ้าหากเราไม่ได้ยึดมั่นในเจตน์จำนงและอุดมการณ์ของเรา ที่เราดำเนินการอยู่ การมองปัญหาโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม มีแนวโน้มที่อาจนำไปสู่การใช้ความเชื่อความคิดตัวเองในการวิเคราะห์ตัดสินได้ ผมอยากเห็นสื่อมวลชนไทยทำหน้าที่เสนอความจริงให้มากที่สุด ถ้าจะมีความเห็นให้แสดงให้ชัดว่าเป็นความเห็น ไม่ใช่ปะปนลงไปในข้อเท็จจริง”นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวปิดท้ายว่า โอกาสและความท้าทาย ในภูมิทัศน์โลก ประเทศไทย ต้องไม่เป็นเพียงผู้ตามในการเปลี่ยนแปลงของโลก แต่ต้องเป็นผู้นำในการกำหนดอนาคตของตัวเอง เราต้องสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ไม่ใช่เพียงอาศัยต้นทุนแรงงานราคาถูก

เราต้องกลับมามีบทบาทสำคัญร่วมกันนำอาเซียน ให้มีบทบาทสำคัญในเวทีโลกในฐานะกลุ่มประเทศที่มีเสถียรภาพและศักยภาพในการแข่งขัน รวมกันเท่านั้นเราถึงจะสามารถสร้างอำนาจต่อรองในบริบทของโลกได้ ก็ขอให้พวกเราทุกคนโดยเฉพาะสื่อมวลชนช่วยกันผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่ อนาคตที่แข็งแกร่งและพร้อมรับมือกับทุกความท้าทายของโลกไปด้วยกัน
“ผมยืนยันว่าความตื่นรู้ของพวกเราทั้งรัฐบาลและสื่อมวลชน เป็นความจำเป็นที่ต่างต้องเรียนรู้และปรับตัวไปด้วยกัน อนาคตของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นความท้าทายใหม่ ในปัจจุบันที่สำคัญ ที่รอการร่วมมือและการร่วมบริหารจัดการอย่างชาญฉลาด ของกลุ่มต่างๆ และพี่น้องประชาชนในประเทศไทย และประชาคมโลก โดยเฉพาะพวกเราทุกคนจะมีส่วนช่วยรับมือกับความท้าทายในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันได้อย่างดี” นายภูมิธรรม กล่าว