คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตัดสินลงโทษ สงกรานต์ พวงน้อย นักเตะหัวหิน ซิตี้ แบน 5 ปี เพราะทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์ แม้จากรายงานจะไม่ได้ทำร้ายคู่แข่งที่นอนเจ็บอยู่ก็ตาม แต่ก็อาละวาดทำร้ายคู่แข่ง แถมต่อยผู้ตัดสิน
ฟุตบอลไทยลีก 3 โซนตะวันตก เกม หัวหิน ซิตี้ พบ ราชประชา เมื่อวันที่ 2 มี.ค.68 มีเรื่องดังกระฉ่อน ท้ายครึ่งแรก เดิมทีมีรายงานว่า ขณะที่ ศรีไทย บูโกก นักเตะราชประชา กำลังนอนเจ็บอยู่ สงกรานต์ พวงน้อย นักเตะหัวหิน ไปทำร้ายซ้ำ เมื่อโดนผู้ตัดสิน จิรายุ จงอนุรักษ์ ชักใบแดงให้ทันที แต่ สงกรานต์ ยิ่งฉุนหนัก เริ่มจากเอาแขนซ้ายค้ำคอผู้ตัดสิน ต่อด้วยฮุคขวา 2 หมัด เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากผู้พบเห็นอย่างมาก ถึงการกระทำนี้ ยิ่ง สงกรานต์ รับราชการตำรวจด้วย ยิ่งโดนวิจารณ์หนัก แม้เจ้าตัวจะโพสต์ขอโทษทันทีหลังจบเกมแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดจากรายงานผู้ตัดสิน ไม่ได้ระบุว่า สงกรานต์ ทำร้ายคนที่นอนเจ็บ และ ศรีไทย บูโกก นั้นโดนเอานิ้วจิ้มตา แต่เคสอื่นเป็นไปตามข่าวทีแรก

รายงานที่ประชุม ระบุว่า ในนาทีที่ 43 ธนชัช โพธ์ชา ของราชประชา วิ่งชนเสาประตู นอนบาดเจ็บ ผู้ตัดสินเรียกเจ้าหน้าที่ทีมเข้ามา ระหว่าง สงกรานต์ พวงน้อย ของ หัวหิน ซิตี้ พยายามเข้าไปพูดคุยให้ผู้บาดเจ็บออกจากสนาม จึงเกิดการโต้เถียงกับนักเตะราชประชา
ขณะนั้นพลเปลเข้าไปในสนามเพื่อรับผู้บาดเจ็บ สงกรานต์ ได้เดินเข้าไปใช้นิ้วมือจิ้มตาข้างขวาของ ศรีไทย บูโกก ผู้เล่นราชประชา เนื่องจากการปะทะคารมกัน ผู้ตัดสินได้ให้ใบแดงแก่ สงกรานต์ พวงน้อย ก่อนที่ สงกรานต์ บีบคอผู้ตัดสินและต่อยผู้ตัดสินบริเวณใบหน้า จำนวน 3 ครั้ง แล้ววิ่งกลับเข้าไปเตะ ศรีไทย บูโกก บริเวณต้นขาขวา 1 ครั้ง ต่อมา ชุติพันธุ์ นบนอบ ของราชประชา เข้าไปห้าม สงกรานต์ แต่ก็โดน สงกรานต์ พยายามต่อยใบหน้าแต่ไม่โดน และช่วงเดินกลับห้องพัก สงกรานต์ ได้ตะโกนข่มขู่ผู้ตัดสิน

สำหรับผลพิจารณาโทษ สงกรานต์ พวงน้อย ของ หัวหิน ซิตี้ ทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายของผู้ถูกทำร้าย แบน 4 นัด และปรับเงิน 60,000 บาท โทษปรับเงินคิด 1 ใน 4 เนื่องจากเป็นไทยลีก 3 ลดเหลือ 15,000 บาท และผู้กระทำต้องรับผิดชอบต่อค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งค่าสินไหมทดแทน
ส่วนกรณี สงกรานต์ ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่การแข่งขัน(ผู้ตัดสิน) จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายของผู้ถูกทำร้าย แบน 4 นัด และปรับเงิน 60,000 บาท เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ให้เพิ่มโทษจากเดิมเป็น 2 เท่า เป็นปรับเงิน 120,000 บาท ไทยลีก 3 ลดเหลือ 30,000 บาท และเพิ่มโทษแบนเป็น 8 นัด รวมทั้งรับผิดชอบต่อค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งค่าสินไหมทดแทน

กรณี สงกรานต์ พยายามทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นอันเป็นเหตุนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยในสถานที่จัดการแข่งขัน แบน 2 นัด และปรับเงิน 30,000 บาท โทษปรับเหลือ 7,500 บาท
สงกรานต์ ข่มขู่ผู้ตัดสิน แบน 3 นัด ปรับเงิน 60,000 บาท โทษปรับเหลือ 15,000 บาท, กรณี ใบแดง violent conduct ครั้งที่ 2 แบน 3 นัด ปรับเงิน 40,000 บาท โทษปรับเหลือ 10,000 บาท
รวมโทษลงโทษ สงกรานต์ พวงน้อย ถูกพักการแข่งขันและห้ามเข้าสนาม 20 นัด และปรับเงิน 310,000 บาท โทษปรับเหลือ 77,500 บาท
นอกจากนี้คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท มีมติเอกฉันท์ เห็นว่า สงกรานต์ พวงน้อย ซึ่งเป็นนักกีฬาอาชีพ ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่การแข่งขันโดยการต่อยบริเวณใบหน้าและบีบคอ ซึ่งเป็นจุดที่บอบบาง อีกทั้งยังทำร้ายร่างกายนักกีฬารวมอาชีพ โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา เป็นการกระทำที่รุนแรงร้ายแรง เสื่อมเสียภาพลักษณ์ต่อการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศไทย คณะกรรมการฯ จึงอาศัยอำนาจตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มายาท บทที่ 2 ข้อ 4 บททั่วไป “หากโทษที่กำหนดไว้ในระเบียบการลงโทษนี้ ไม่ครอบคลุมถึงความผิดในกรณีอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังที่ออกระเบียบนี้ เป็นดุลพินิจขององค์คณะตุลาการ แต่ละคณะของสมาคม ที่จะนำโทษตามระเบียบนี้ที่เป็นบทใกล้เคียงกันมาใช้ก่อน หากไม่มีให้นำข้อบังคับสมาคม หรือ เอเอฟซี หรือ ฟีฟ่า มาบังคับใช้โดยอนุโลม”
จึงลงโทษ สงกรานต์ พวงน้อย มีความตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 1 ข้อ 1 ลักษณะโทษของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีม ข้อย่อย 1.8 ประกอบกับ ข้อบังคับของฟีฟ่าฯ FIFA Disciplinary Code CHAPTER 2 ข้อ 14 ข้อย่อย 1 (l) ห้ามเข้าร่วมการแข่งขันที่สมาคมจัดขึ้นเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่มีคำสั่งนี้เป็นต้นไป