เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีราชชื่อพรรคประชาชน ในฐานนะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (ประธานวิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อถกเถียงเรื่องจำนวนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า คงต้องนำไปหารือในที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายอีกครั้ง ซึ่งที่ฝ่ายค้านเสนอ 5 วัน เพราะประเมินให้เหมาะสมกับการอภิปรายของผู้อภิปราย และเผื่อเวลาให้รัฐมนตรีได้ลุกขึ้นชี้แจงด้วย ส่วนที่มีคนบอกว่าฝ่ายค้านไม่มีมารยาทมาขอ 5 วัน โดยไม่ผ่านที่ประชุม ส่วนตัวตนไม่เข้าใจว่าไม่มีมารยาทตรงไหน ตามจริงเรื่องนี้มีข้อดี เพราะจะทำให้รัฐบาลได้เตรียมตัว และให้ประชาชนตื่นตัวรับรู้ไปด้วย 

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า โดยพรรคเพื่อไทยก็ออกมายอมรับแล้วว่า 1 วัน ไม่เพียงพอ ส่วนตัวมองว่าตรงกลางน่าจะอยู่ที่ 4 วัน โดยอภิปรายไม่เกิน 23.00 น. ของแต่ละวัน ส่วนการที่อ้างว่าอภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แค่คนเดียว อภิปรายวันเดียวก็เพียงพอนั้น อยากให้ไปย้อนดูตอนพรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายก ฯ ในตอนนั้น โดยบอกว่าอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว 30 ชม. แล้วคิดว่าครั้งนี้ มันสมเหตุสมผลหรือไม่ 

เมื่อถามอีกว่า นายกฯ ต้องชี้แจงด้วยตนเองทั้งหมดใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คงต้องไปตีความข้อบังคับ ซึ่งมีกำหนดว่าให้นายกฯ หรือรัฐมนตรีเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้แจง จึงต้องตีความว่า ผู้ที่ถูกยื่นญัตติคนเดียวใช่หรือไม่ ที่ต้องเป็นคนลุกขึ้นชี้แจง แต่ในความเห็นส่วนตัวเรื่องไหนที่เกี่ยวข้องกระทรวงโดยตรง ก็ไม่ได้น่าเกลียดที่จะให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบกระทรวงนั้นลุกขึ้นชี้แจง แต่ถ้าเรื่องไหนเกี่ยวข้องกับนายกฯ โดยตรง ก็จำเป็นต้องตอบด้วยตัวเอง ประเภทที่ว่าให้รองนายกฯ ลุกขึ้นตอบแทน อันนี้น่าจะไม่เหมาะสม 

เมื่อถามต่อว่ากรณีที่มีการตอบโต้กับนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงขึ้นไม่ยกมือไหว้กันนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ที่จริงตนเป็นคนมีมารยาท เมื่อเห็นผู้ใหญ่ก็ยกมือไหว้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ต้องบอกตามตรงว่าตนโกรธจริง แต่ก็คาดหวังว่าเขาไม่ได้เจตนา 

“ผมก็คนธรรมดา มีอารมณ์โกรธ และที่ผมโกรธไม่ใช่เรื่องส่วนตัว สิ่งที่ผมโกรธก็คือ ผมเห็นฝ่ายการเมืองที่อ้างตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตยมาโดยตลอด พูดถึงการยุบพรรค พูดถึงอาวุธที่ฝ่ายเผด็จการ ใช้ประหัตประหารนักการเมืองที่มาจากประชาชนได้ราวกับเป็นเรื่องตลก อันนี้คือสิ่งที่ผมโกรธ ผมก็เลยตอบโต้ไปแบบนั้น” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับนายวิสุทธิ์ แต่เมื่อเจอกันในวิป 3 ฝ่าย คงได้พูดคุยกัน การกระทบกระทั่งแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป แต่อาจจะเป็นบทเรียนให้ทั้ง 2 ฝ่าย ว่าการสื่อสารควรจะอยู่ประมาณไหน