อีกหนึ่งในความสำเร็จของ M STUDIO บริษัทผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยรายใหญ่ของประเทศ คือที่สุดแห่งปรากฏการณ์ภาพยนตร์ไทย กับความสำเร็จของภาพยนตร์ “ธี่หยด” และ “ธี่หยด 2” ที่ทำลายทุกสถิติในประเทศไทยและทั่วโลก ทำให้เป็นที่จับตามองถึงภาคต่อของภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้ทะลุ 800 ล้านบาท ซึ่งต่อมาทางค่ายก็ได้ออกมาประกาศทำธี่หยด3 ต่อ โดยจะมีการเข้าโรงภาพยนตร์ในวันที่8 ตุลาคม68นี้ ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ได้มาร่วมงาน “Synergy Night” พร้อมทั้งเปิดใจความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องธี่หยด3 ว่าดุดัน ดุเดือด ถึงขั้นเก็บไปฝัน รวมไปถึงความแน่นฟิตแพ็กของภาคนี้จะอัพเลเวลขึ้นไปอีกด้วย

ณเดชน์ เผยว่า “ต้องขอขอบคุณบทประพันธ์ คือมันเป็นเรื่องราวเรื่องจริงที่ถูกเล่ากันมาแล้วถูกเขียนมาเป็นนิยาย ผมรู้สึกว่าตัวเรื่องของธี่หยดคือสนุกอยู่แล้ว และมีฐานแฟนคลับที่เยอะมากๆ และฐานแฟนคลับจากเดอะโกสต์ก็เยอะมาก มันก็เลยทำให้ธี่หยดประสบความสำเร็จโดยที่เราตั้งตัวไม่ทัน ผมว่าองค์ประกอบพวกนี้เลยทำให้มันประสบความสำเร็จ ส่วนตัวละครพี่ยักษ์เองผมก็รู้สึกว่าอาจจะเพราะเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสีย มีความแบบดุดันที่จะลงมือทำอะไรซักอย่าง มันไม่ใช่แค่สู้กับผีหรอก แต่ว่าคงทุกเรื่องแหละ เป็นคนอารมณ์ร้อนและใช้กำลัง แต่ยักษ์ก็ทำให้เห็นว่าอะไรที่มันไม่มีสติก็สามารถที่จะเกิดความผิดพลาดได้เหมือนกัน ก็อาจจะเป็นคาแรกเตอร์ทำให้คนรู้สึกสะใจ เราอยากใช้ชีวิตแบบนี้ อยากจะจัดการกับผีแบบนี้

แล้ววันก่อนเพิ่งฝันร้ายไปฝันว่าเห็นผี คือเพิ่งไปอ่านบทกันมา อ่านเสร็จแล้วสองสามวัน แล้วเหมือนเก็บไว้ข้างในก็เลยเอามาฝัน ฝันว่าเห็นผีเห็นแล้วเต็มไปหมดก็เลยไปซื้อลอตเตอรี่ แต่ไม่ถูก คือฝันเห็นประมาณว่าเราขับรถอยู่พอพ้นหัวโค้งมา ก็มีผีนางรำ มีผีชุดดำนั่งก้มหน้า หันหน้ามา มีผีกระโจนขึ้นมาหน้ากระโปรงรถ เริ่มเป็นผีป่าผีสัตว์ ซึ่งพูดไม่ได้ว่ามันอยู่ในบทไหม แต่ก็ไม่มีในบทหรอก คือมันน่ากลัวมาก กลับไปเล่าให้คนที่บ้านฟัง พอหันหลังและพระอาจารย์ก็ยิ้มให้ท่านบอกว่าไปทำบุญหน่อยนะคือในฝันนะ พระอาจารย์ในฝันก็เป็นพระที่เราเคารพ พอตื่นขึ้นมาก็ไม่ลืมจะจำไปจนตาย และบอกว่าเดี๋ยวไปทำบุญให้ ผมก็เลยไปใส่บาตร ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ค่อยได้ฝันเรื่องพวกนี้ คิดดูว่าภาคสามมันเดือดขนาดไหนถึงขั้นจำไปฝัน ซึ่งเล่นสองภาคแรกก็คือไม่มี ส่วนงวดนี้ก็ไม่ถูกลอตเตอรี่พลาดไปตัวเดียวเอง ผมซื้อ 541 แต่มันออก 545 ซึ่งเราก็บอกแม่แล้วว่าฝัน ถามว่าตอนที่ฝันทำไมเราไม่เอาร่างพี่ยักษ์เข้าสู้กับผี คือตอนนั้นสวดมนต์อย่างเดียวเลย ไม่เกี่ยวไรกับพี่ยักษ์เลย แต่ถ้าถามว่าเราเอาร่างพี่ยักษ์ไปสู้กับผีได้ไหมผมว่าผมทำได้ เพราะว่าพี่ยักษ์เป็นไอดอลให้เรา เพราะว่าจริงๆแล้วคนเราสามารถที่จะทำอะไรที่มันเกินจินตนาการในความคิดของเรา ถ้ามันมีเหตุแรงจูงใจจริงๆ เราก็สามารถจะทำมันได้ ถือว่าถ้าใครเจอผีอำผมว่าสักครั้งนึงด่าเขาแล้วก็บอกเขาว่าเดี๋ยวจะไปทำบุญให้ ขออย่าให้มากวนเราในคืนนี้ แต่ณเดชน์ไง คือณเดชน์กลัวผี ผมกลัวผีมาก คือที่เล่นสองเรื่องแรกคือมันเป็นการแสดงไง ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น คือภาคนี้เราก็ยกมือไหว้ขอขมาหลังเลิกกอง ไหว้พระก่อนนอน ส่วนเวลาไปถ่ายต่างจังหวัดก็จะทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว

ส่วนซิกแพคในภาคสามก็จะแน่นขึ้น แต่อาจจะไม่ได้มีจังหวะถอดหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ คือต้องดูความสมเหตุสมผล คือเรื่องราวที่อยู่ในภาคสามหลายอย่างมันค่อนข้างรวดเร็ว มันมีหลายอย่างเกิดขึ้นมาก คงไม่มีเวลาให้ยักษ์ถอดเสื้อหรอกมั้ง อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน คือจริงๆก็กะว่าภาคสาม พี่ยักษ์โตขึ้น แล้วก็ผ่านประสบการณ์มาเยอะมาก การที่พี่ยักษ์จะตัวใหญ่ขึ้น มันเป็นเรื่องที่เขาอาจจะต้องเตรียมตัวกับอะไรซักอย่างหรือเปล่า เผื่อว่าอนาคตมันกลับมา ก็ไปฟิตเนสสักหน่อย ถามว่ามันดูเฟื่องฟูกว่าฟ้าจรดทรายอีกนะ คือผมว่าตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงเวลาที่พีคสุดแล้ว หลังจากนั้นมาผมกินทุกอย่าง เหมือนลงแดง กินทั้งวันทั้งคืนเลย คือมันเป็นช่วงเวลาเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ด้วย เราทำงานให้งานมาเยอะแล้ว เราให้ตัวเองมั่งดีกว่า ก็เลยเต็มที่กับการกิน ซึ่งตอนนั้นน้ำหนักขึ้นมาแปดกิโล แต่ตอนนี้ลดลงมา ห้ากิโลได้

ส่วนตัวแล้วอยากให้บอดี้พี่ยักษ์ในภาคสาม อยากให้พี่ยักษ์ดูมีเวลาไปออกกำลังกายมากขึ้น คือพี่อยากดูมีเวลามากขึ้นนะเพราะฆ่าผีชุดดำได้แล้ว ครอบครัวก็มีความสุข อีกอย่างหนึ่งพี่ยักษ์ก็เริ่มกลับมาทำงานสวนช่วยพ่อช่วยน้องแล้ว เพราะฉะนั้นการที่ได้กลับมาในไร่มันก็จะต้องตัวใหญ่ขึ้น มันก็จะมีความล่ำขึ้น ก็จะมีบอดี้ที่ดูชัดมากขึ้น ส่วนในภาคสามนี้ในส่วนตัวไม่ได้คาดหวังเรื่องรายได้ แค่คาดหวังให้คนดูมีความสุขและสนุกกับเรื่องก็พอเราเป็นแค่นักแสดง ผมว่าทีมนักแสดงทุกคนอยากจะทำงานและหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เรื่องรายได้หรือว่าผลตอบรับมันเป็นเรื่องสุดท้ายที่สำคัญสำหรับพวกเราของนักแสดง

ส่วนคำว่าพระเอกพันล้าน เราก็ไม่น่าเชื่อว่าจะถึงขนาดนั้น คือไม่มีใครเชื่อเลย แต่คือผมก็ไม่ได้ได้ด้วยไง(หัวเราะ) แต่พอมาภาคสามเราก็เลยตั้งใจเตรียมตัวเตรียมผลตอบรับไว้ ถ้าสมมุติว่าต่อให้เรื่องมันดีแต่ว่ารายได้มันอาจจะไม่ได้เท่าเดิมหรือไม่ได้มากไปกว่าเดิม เราก็คงรู้สึกดีแล้วที่เรายังมีโอกาสได้ทำงานธี่หยด3 ต่อ แล้วเดี๋ยวก็จะมีภาคแยกคือภาคสมิงเขาขวาง จริงๆคือภาคแยกจุดเริ่มต้นก่อนที่พี่อยากจะมาเจอเรื่องราวผีชุดดำที่บ้าน เรียกว่าเป็นเรื่องราวของยักษ์และจ่าประพันธ์และความรักของพี่ยักษ์ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะถ่ายหลังจากภาคสามจบ จริงๆคือถ่ายหนังสามเดือนก็เสร็จแล้ว ที่เลือกถ่ายหนังเพราะว่าได้จะได้จบทันงานแต่ง“
