สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ให้ความเห็นว่า “ข้อตกลงเพื่อการยุติสงครามยังอีกยาวไกล” ว่า “เป็นแถลงการณ์เลวร้ายที่สุดเท่าที่เซเลนสกีเคยพูดออกมา”


ทรัมป์กล่าวต่อไปว่า “อเมริกาจะไม่อดทนกับเรื่องแบบนี้อีกนานนัก” และย้ำว่า เซเลนสกี “จะไม่ได้เป็นผู้นำยูเครนอีกนานนัก” หากยังคงปฏิเสธลงนามในข้อตกลงหยุดยิงกับรัสเซีย และผู้นำยูเครน “ควรแสดงความซาบซึ้งใจมากกว่านี้” กับความช่วยเหลือมูลค่ามหาศาล ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน มอบให้แก่ยูเครน


แม้ทรัมป์กล่าวด้วยว่า ผู้นำยูเครน “ไม่ต้องการสันติภาพ” อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐยังคงแสดงความหวัง ว่าเซเลนสกีจะลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับสหรัฐ ที่จะเป็นการ “ยกระดับและส่งเสริม” ความร่วมมือเรื่องแร่ธาตุ


ขณะที่เซเลนสกียังคงยืนยัน ว่า “สันติภาพอย่างแท้จริง” จะเกิดขึ้นได้ “เมื่อยูเครนได้รับหลักประกันด้านความมั่นคงเท่านั้น” โดยอ้างถึงการที่ยูเครนยอมปลดนิวเคลียร์ทั้งหมด เมื่อปี 2537 เพื่อแลกกับหลักประกันด้านความมั่นคงจากสหรัฐและสหราชอาณาจักร


นอกจากนี้ เซเลนสกียังวิจารณ์ว่า การไม่ได้รับหลักประกันเกี่ยวกับความมั่นคงดังกล่าว ส่งผลให้รัสเซียรุกรานยูเครนตั้งแต่เมื่อ 11 ปีที่แล้ว ที่ภูมิภาคดอนบาส และการผนวกรวมคาบสมุทรไครเมีย เมื่อปี 2557.

เครดิตภาพ : AFP