เมื่อวันที่ 3 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงบ่ายที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อนถล่มพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งความรุนแรงไม่ต่างจากวานนี้ ที่ซัดบ้านเรือนประชาชนในเขต อ.เมือง และ อ.ท่าอุเทน ได้รับความเสียหายเกือบ 100 หลังคาเรือน โดยพายุเคลื่อนตัวเข้าพื้นที่ย่านเศรษฐกิจของ อ.ธาตุพนม เกิดลมกรรโชกแรง พัดสิ่งกีดขวางเสียหายหลายจุดรวม 3 อำเภอ 8 ตำบล 23 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 141 หลัง
ต่อมามีเฟซบุ๊ก “มีอยู่มีกินเพราะปลานิลของพ่อ แม่น้ำโขง เลี้ยงชีวิต” ไลฟ์สด ถึงเหตุการณ์บริเวณกระชังเลี้ยงปลาของตน ที่เรียงรายอยู่ริมแม่น้ำโขง พร้อมบรรยายว่าพายุได้ถล่มแพปลาจนเสียหาย เรือติดหางเครื่องยนต์ก็จมคว่ำ นอกจากนี้ยังมีแพปลาของคนอื่น สลิงขาดหลุดลอยจากริมฝั่ง ความเสียหายยังประเมินไม่ได้
ขณะเดียวกัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ”สุทธิรักษ์ บรรลือ” ได้ถ่ายคลิปบริเวณรอบโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม และปั๊มน้ำมัน รวมถึงโครงสร้างเหล็กศูนย์โอทอป แผงขายของช่วงงานนมัสการพระธาตุพนม ถูกฤทธิ์พายุพัดหงายตึงทั้งแถบ แม่ค้าต่างทิ้งสิ่งของวิ่งหาที่หลบภัย โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้จากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนพัดถล่มวานนี้ นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นางธนวัน อุ่นเพชรวรากร นายกเหล่ากาชาดนครพนม ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว และเตรียมจัดเจ้าหน้าที่เข้าซ่อมแซม ร่วมกับกำลังพลจากมณฑลททหารบกที่ 210 (มทบ.210) และ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.)
โดย พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) มอบหมายให้ น.อ.สุชาติ อุดมนาค รอง.ผบ.นรข. และ น.ท.วรยุทธ วรยุธการ รักษาราชการหัวหน้าสถานเรือนครพนม (รรก.หน.สน.เรือนครพนม) พร้อมกำลังพลร่วมตรวจสอบความเสียหายบ้านของนายคมสัน ทรงเครื่อง บ้านยางเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน ที่ถูกพายุงัดหลังคาพังทั้งแถบ พร้อมได้มอบผ้าห่มและน้ำดื่มเป็นการบำรุงขวัญให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น
ทางด้าน พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผบ.มทบ.210/ผอ.ศบภ.มทบ.210 ได้ลงพื้นที่ บ้านนาแค ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน เพื่อติดตามสถานการณ์ และการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน เมื่อวันที่ 2 มี.ค.68 ที่ผ่านมา โดยหน่วยจัดชุดช่วยเหลือประชาชน กองร้อยช่วยเหลือประชาชน ศบภ.มทบ.210 ลงพื้นที่ร่วมกับผู้นำชุมชน และประชาชน ในการเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดเสียหาย จำนวน 16 หลังคาเรือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเพื่อให้ประชาชนได้สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ตามปกติโดยเร็ว
