เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่เวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา นายเบิร์ด เทคนิค แฟนหนุ่มของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงชื่อดัง ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสืบสวนที่ 20/2568 กรณี คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
นายเบิร์ด เทคนิค เปิดเผยหลังเข้าให้ข้อมูลคณะพนักงานสืบสวน ว่า วันนี้ดีใจที่ได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์และทำตามหน้าที่และก็ทำในสิ่งที่ดีเอสไอได้นัดหมายแล้ว แล้วก็ถ้ามีปัญหาหรือมีเรื่องสำคัญอะไรที่ดีเอสไอจะขอเพิ่มเติมก็สามารถทักมาหาตนโดยตรงได้เลย เพราะตนได้ให้ข้อมูลทางคดีไปกับทางดีเอสไอเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนเรื่องไปจังหวัดภูเก็ตนั้น ตนได้เดินทางไปจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 17 ก.พ.65 แล้วเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 19 ก.พ.65 แต่แตงโมแฟนสาวได้ลงเรือในวันที่ 24 ก.พ.65 แล้วจะมาบอกว่าตนรีบกลับมาวันเดียวอะไรอย่างนั้น ตนก็งง เนื่องจากไทม์ไลน์จริง ๆ แล้วตนเดินทางวันที่ 17 ก.พ.65 และกลับมาถึงกรุงเทพฯ วันที่ 19 ก.พ.65 แล้วจำได้ว่าแตงโมจะมีถ่ายละครที่ยังถ่ายไม่จบ ซึ่งจะต้องเป็นการถ่ายต่อในประมาณวันที่ 22-23 ก.พ.65
อย่างไรก็ตาม การที่แตงโมจะไปลงเรือในคืนวันดังกล่าว แตงโมได้บอกกับตนล่วงหน้าหนึ่งคืน (23 ก.พ.65) ว่า พรุ่งนี้ตนเองจะไปลงเรือกินข้าวกับเพื่อน ซึ่งตนก็ได้สอบถามว่าจะไปกับใคร แตงโมก็ตอบกลับตนว่าไปกับกระติก ซึ่งแตงโมบอกแค่นี้ตนเลยไม่ได้ถามต่อ และในวันที่แตงโมไปลงเรือ ซึ่งก่อนที่แตงโมจะเดินทางออกจากบ้าน ตนได้นอนอยู่บนเตียง เขาก็แต่งตัวเสร็จแล้วเดินขึ้นมาลาตนว่า “ที่รัก เค้าไปแล้วนะ เค้าออกจากบ้านแล้วนะ” ซึ่งแตงโมก็ได้มีการมาหอมแก้มตนก่อนไป
นายเบิร์ด กล่าวอีกว่า วันนั้นไม่ได้ถือเป็นลางสังหรณ์อะไรเลย เป็นเหมือนปกติเหมือนที่แตงโมออกไปถ่ายละคร แตงโมก็มักจะมาลาตนเป็นปกติอยู่แล้ว ตนอยากย้ำว่าตนไม่ได้รู้จักกับคนบนเรือเลย รู้จักกระติกแค่คนเดียว แต่ตนก็ไม่ได้สนิทกับกระติก ส่วนใครที่มาบอกว่าตนรู้จักกับคนบนเรือ หรือมาบอกว่าคนบนเรือรู้จักตน ตนขอย้ำชัด ๆ ว่าไม่เคยรู้จักใครเลย ตนไม่มีเบอร์โทรศัพท์ ไม่เคยพูดคุยกับใครบนเรือ โดยเฉพาะกรณีของคนที่ชื่อเอ็กซ์ที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ หรือที่ออกมาให้ข้อมูล ออกรายการอะไรสักอย่าง ตนได้ไปดูรายการดังกล่าวมาแล้ว ยอมรับว่ารู้จักกับเขาแต่ไม่ได้สนิทด้วย ตนรู้จักกับเขาแค่วันเดียว เนื่องจากเพื่อนสนิทของตนที่ชื่อน็อต เขาเป็นรุ่นน้องกับคนที่ชื่อเอ็กซ์ แล้ววันนั้นตนได้ไปขับรถเล่น กับเพื่อนและรุ่นน้องที่บางแสน เพื่อนที่ชื่อน็อตได้โทรศัพท์ไปหาคนที่ชื่อเอ็กซ์ ว่าจะมีการไปขับรถเล่นที่บางแสน ซึ่งเป็นการติดต่อกันเองตนไม่ได้รู้จักเอ็กซ์ แต่ไปรู้จักกันในวันนั้นเพียงแค่ทักทายและกล่าวสวัสดีเท่านั้น จากนั้นตนก็ไม่ได้ติดต่อนายเอ็กซ์อีกเลย ไม่มีไลน์อะไรทั้งสิ้น นายเอ็กซ์สนิทกับนายน็อตมากกว่า
นายเบิร์ด กล่าวต่อว่า ตนได้พูดอธิบายข้อมูลที่มีประโยชน์กับทางดีเอสไอไปหมดแล้ว ตนไม่สามารถพูดอะไรได้มากไปกว่านี้แล้ว นอกจากนี้ ย้อนไปเมื่อวันเกิดเหตุ ในเวลาประมาณ 19.19 น. ตนได้คุยกับแตงโมเป็นครั้งสุดท้าย โดยแตงโมบอกว่าถึงร้านอาหารแล้ว ลงเรือกินข้าวแล้ว และแตงโมก็ได้ถามตนว่า “เธอกินข้าวหรือยัง” ตนจึงตอบกลับไปว่า “กินแล้ว กำลังทำงานอยู่” หลังจากที่เบิร์ดพูดประเด็นดังกล่าวปรากฏว่าเพื่อนผู้ชายของเบิร์ดที่มาด้วยพยายามดึงตัวเบิร์ดออกไปแล้วบอกว่า “พอแล้ว ขอบคุณมากครับ ขอโทษนะครับ”
“ผมไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ และตนอยากให้สังคมเสพข่าว แต่ไม่ต้องเชื่อข่าวทั้งหมด ต้องคิดวิเคราะห์แยกแยะ ทั้งนี้ ผมไม่เคยโดนข่มขู่และไม่กลัวใครด้วย ผมไม่ออกมา 3 ปีแต่ผมเสียใจ ผมเจ็บ เพราะแต่ละคนจิตใจไม่เหมือนกัน ผมขอโทษที่มีอาการรู้สึกอึดอัด บางครั้งเจอข่าวคนโจมตีผม แค่อยากจะบอกว่าจิตใจคนเราไม่เหมือนกัน ผมก็รับได้เท่านี้ แต่ละคนรับได้ไม่เท่ากัน ทุกวันนี้ผมเลือกทำตามใจของตัวเอง ไม่ได้ทำตามใจคนอื่น ที่ไม่ได้ออกมา แต่สิ่งที่คนเรียกร้องให้ผมออกมาเป็นการทำตามใจของคนอื่น แต่ที่ตัวไม่ออกมาเป็นเพราะตนทำใจตัวเอง” นายเบิร์ด ระบายความในใจ.

ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันเริ่มต้นการสอบพยานในคดีสืบสวนทั้งหมด เราจะใช้เวลาถึงสิ้นเดือน มี.ค.68 เป็นพยานที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดกับเหตุการณ์และบุคคลบนเรือ ซึ่งจะมีพยานหลายคนให้ข้อเท็จจริง ส่วนการที่เราลงพื้นที่ใช้โซลาร์สแกน ขณะนี้เสร็จเรียบร้อย อยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูล และจะนำผลทั้งหมดไปให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ข้อมูลอีกครั้งหนึ่งคือสิ่งที่เราจะดำเนินการต่อไป
พ.ต.ต.ณฐพล เผยอีกว่า ส่วนพรุ่งนี้จะมีเสี่ยสมพงษ์ เข้ามาพบดีเอสไอเวลา 10.00 น. และยังมีพยานที่ยังไม่เปิดเผยมาพบดีเอสไอในช่วงบ่ายเพิ่มเติม สำหรับนายเบิร์ด ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพราะเป็นคนใกล้ชิดมากที่สุด และนายเบิร์ดยินดีที่จะออกสื่อแต่ให้ติดต่อประสานผ่านพนักงานสอบสวน
“การลงพื้นที่จะลงอีกครั้งหนึ่งจะเก็บวัสดุไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือหิน ดิน ทราย แต่ต้องสอบพยานให้เสร็จก่อนถึงจะดำเนินการในขั้นต่อไป ส่วนโทรศัพท์ของอลิส ยังไม่เสร็จเนื่องจากยังใช้ความละเอียดรอบคอบในการดึงข้อมูลออกมา คาดว่าในสัปดาห์นี้จะเสร็จสิ้นเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ตามความยากของคดีมันมีอยู่แล้วแต่ดีเอสไอมีเครื่องมือพิเศษและใช้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่มาช่วยเหลือในการไขคดีแต่ต้องรออีกซักระยะ ส่วนการสอบพยานจะเสร็จสิ้นในเดือน มี.ค.นี้ นอกจากนี้ โทรศัพท์ของแตงโมอยู่ที่สถาบันนิติศาสตร์อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ“ พ.ต.ต.ณฐพล ปิดท้าย.