เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ภายหลังจากที่ นายชานนท์ ใสจูง หรือ ครูเดียวดาย อายุ 33 ปี ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต แฟนสาวที่มีแพลนจะแต่งงานกันปลายปีนี้ ถึงกับเศร้าโศกทำใจไม่ได้ ขณะที่ญาติพี่น้องต่างเศร้าโศกและช่วยกันสานฝันของครูเดียวดายให้เป็นจริง โดยการจัดพิธีวิวาห์ของครูเดียวดายกับแฟนสาว ภายในงานศพขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ตายเคยพูดเป็นลาง จะจัดงานแต่งตัวเองในวัดข้างเมรุ
วันนี้ที่บ้านเลขที่ 12/1 บ้านวังผือ หมู่ 4 ต.ขามป้อม อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานศพและงานแต่งงานให้กับครูเดียวดาย ญาติและครอบครัวช่วยกันเคลื่อนศพจากบ้านไปยังฌาปนสถานเมรุวัดเลียบโพธิ์ทอง ในหมู่บ้าน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก มีเพื่อนๆ และชาวบ้านที่มาร่วมส่งดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต โดยภรรยาของผู้เสียชีวิตที่เพิ่งเข้าวิวาห์หน้าโลงศพเมื่อวานนี้เดินถือรูปผู้ตายไปที่วัด เพื่อร่วมพิธีทางศาสนา พร้อมกับพระสงฆ์และชาวบ้านหลายร้อยคน
สานฝัน “ครูเดียวดาย” จัดพิธีวิวาห์ในงานศพ เจ้าสาวสุขปนเศร้า ขอให้คนรักหมดห่วง

ทันทีที่เคลื่อนศพมาถึงเมรุวัดเลียบโพธิ์ทอง พระสงฆ์ก็ได้เริ่มทำพิธีตามความเชื่อ คือพิธีตัดกรรม ตัดสายสัมพันธ์เพื่อให้ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตหมดห่วงในเรื่องต่างๆ กับทางฝ่ายภรรยาที่เข้าวิวาห์ในพิธีการจัดงานศพ โดยหลังจากที่พระสงฆ์ได้ทำการสวด ก็ได้ใช้มีดตัดสายสิญจน์ที่โยงจากโลงศพมาที่เจ้าสาว ก่อนจะใช้น้ำมนต์เทราดตัว แล้วให้ทางเจ้าสาวเดินออกจากวัดไปห้ามหันหลังกลับมาโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้มีความห่วงหรือยังมีความสัมพันธ์กันอยู่ตามความเชื่อ หลังจากนั้นก็เข้าสู่พิธีการวางดอกไม้จันทน์และทำพิธีฌาปนกิจ ในบรรยากาศที่โศกเศร้าของครอบครัวและเพื่อนๆ ที่ทราบข่าว

นายสุวิทย์ สไวดี อายุ 37 ปี เพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองกับเดียวดายนั้นสนิทสนมกันเป็นพี่น้อง เพราะเดียวดายเป็นญาติทางภรรยา ในช่วงที่เดียวดายทำงานเป็นครู ก็มีคนรัก มีลูกศิษย์ที่รักมากมาย พอเปลี่ยนสายงาน ตนเองชวนมาทำงานที่โรงพยาบาล เดียวดายก็เป็นคนที่มีคำว่าจิตอาสาอย่างเต็มเปี่ยม ถนัดหลายอย่าง ทำได้หลายอย่าง ครูเดียวดายก็อาสาช่วยจนเสร็จ เพื่อนร่วมงานไม่ว่าใครต้องการให้ช่วยอะไร เดียวดายช่วยเหลือหมด จนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ร่วมงานให้ฉายากับเดียวดายว่า คิดอะไรไม่ออกบอกเดียวดาย เพราะเป็นจิตอาสาในที่ทำงาน เป็นคนสนุกสนานในที่ทำงาน เป็นที่รักของทุกๆ คนจริงๆ

“ที่ผ่านมา เพื่อนๆ ทุกคนได้รับฟังตลอด เวลามีงานแต่งแล้วผู้ตายได้ไปร่วม ก็บอกเพื่อนๆ เสมอว่าจะไปจองโต๊ะจีนไปจัดงานแต่งตัวเอง ไปงานแต่งใครก็บอกจะจัดงานตัวเอง จนบางครั้งก็ทำเหมือนเป็นลางว่าจะไปแล้ว พอเสียชีวิต พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายได้คุยกันแล้ว ครอบครัวจึงไม่อยากให้เป็นห่วง จึงจัดงานแต่งงานขึ้นมา และถ้าเดียวดายรับรู้ อยากจะบอกเดียวดายด้วยความสนิทสนมกันว่า บักบ้าเอ้ย มาแต่งก็มาแต่งแบบนี้ ทำไมไม่รอถึงงานแต่งจริงๆ ไม่อายคนเหรอ”