เมื่อวันที่ 3 มี.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายแพทย์ไต้ ไห่ชิง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปัสสาวะและผู้อำนวยการคลินิกด้านระบบปัสสาวะ ออกมาเตือนถึงการช่วยตัวเองบ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดอาการ “ช้าในการหลั่ง” เนื่องจากทำบ่อยเกินไปหรือในลักษณะที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจส่งผลเสียต่อสมรรถภาพทางเพศได้ โดยมี 3 ผลกระทบหลัก ได้แก่ 1.การลดความไวของอวัยวะเพศ
การช่วยตัวเองมากเกินไปอาจทำให้ความไวของอวัยวะเพศลดลง ซึ่งอาจทำให้ต้องการการกระตุ้นที่แรงขึ้นเพื่อให้สามารถถึงจุดสุดยอดหรือการหลั่ง 2.ความเหนื่อยล้าของอวัยวะเพศ การช่วยตัวเองมากเกินไปอาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าในอวัยวะเพศ ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบเพศ 3.ปัจจัยทางจิตใจ อาจทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวลทางจิตใจ ง ซึ่งสามารถส่งผลเสียต่อความเพลิดเพลินทางเพศและสมรรถภาพทางเพศ อีกทั้งยังอาจทำให้ความสนใจในความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่รักลดลง ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพของชีวิตคู่และความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก


นายแพทย์ไต้ ไห่ชิง ระบุว่า ปัญหานี้จะแตกต่างกันไป ไม่มีคำตอบที่เป็นมาตรฐานที่ใช้ได้ทุกคน หากพบว่าการช่วยตัวเองสามารถทำให้สำเร็จความใคร่ได้ แต่เมื่อมีเพศสัมพันธ์กลับไม่สามารถทำได้ อาจต้องพิจารณาว่าเป็นผลจากการช่วยตัวเองบ่อยเกินไป

ด้าน นายแพทย์คิว หงเจี๋ย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยเอเชีย กล่าวถึงวิธีคำนวณหาความเหมาะสมในการช่วยตัวเองว่า แนะให้ใช้ “กฎคูณ 9” ซึ่งสามารถใช้คำนวณว่าความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์หรือการช่วยตัวเองของแต่ละคนนั้นปกติหรือไม่

โดยยกอย่างใก้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า หากอายุ 30 ปี การคำนวณคือ 3 x 9 = 27 ก็หมายความว่า 2 สัปดาห์ สำเร็จความใคร่ 7 ครั้งถือเป็นความถี่ที่เหมาะสม

ขอบคุณข้อมูล สำนักข่าวต่างประเทศ