หลายคนคงเคยได้ยินคำเตือนว่า “ดื่มแอลกอฮอล์แต่พอดี เพราะจะทำร้ายตับ” แต่รู้หรือไม่ว่า แม้คุณจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลย พฤติกรรมการกินอาหารเย็นบางอย่าง ก็สามารถทำร้ายตับของคุณได้เช่นกัน!
ตับ… อวัยวะเงียบที่ถูกมองข้าม
ตับเป็นอวัยวะที่ตรวจพบอาการผิดปกติได้ยาก ทำให้หลายคนละเลยการตรวจสุขภาพ และอาจนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับโดยไม่รู้ตัว นักโภชนาการชาวญี่ปุ่น “เคียวสุ คาโอรุ” เตือนว่า “อาหารที่เรากินเข้าไปจะถูกประมวลผลโดยตับ หากกินมากเกินไป ตับจะทำงานหนัก และอาจนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับ ตับอักเสบ หรือตับแข็งได้”

พฤติกรรมการกินมื้อเย็นที่ทำร้ายตับ (แม้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์)
- กินของหวานหลังอาหารเย็น:
ของหวานมักมีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง ทำให้ตับทำงานหนักตลอดคืน ควรจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรต (ข้าว ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว) และไขมัน (เนื้อสัตว์ติดมัน ชีส) ในมื้อเย็น เน้นทานเนื้อไม่ติดมัน ปลา ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และผัก เพื่อช่วยในการเผาผลาญของตับ
- ละเลยมื้อกลางวัน กินหนักมื้อเย็น:
หลายคนกินมื้อกลางวันน้อยเกินไป ทำให้หิวมากในมื้อเย็น และกินเยอะเกินความจำเป็น ควรทานมื้อกลางวันให้อิ่ม และทานมื้อเย็นไม่ดึกจนเกินไป เพื่อป้องกันการกินมากเกินไป
สังเกตสัญญาณเตือนจากร่างกาย
หลังจากปรับพฤติกรรมการกินมื้อเย็นแล้ว ให้สังเกตว่าคุณรู้สึกหิวแค่ไหน และน้ำหนักตัวในตอนเช้าเป็นอย่างไร หากรู้สึกหิวมากกว่าปกติ รู้สึกเบาสบายตัว หรือน้ำหนักลดลง แสดงว่าการทำงานของตับอาจดีขึ้น

เคล็ดลับง่าย ๆ เพื่อตับสุขภาพดี
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินทีละเล็กทีละน้อย
- เน้นทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อตับ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีนไม่ติดมัน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ตรวจสุขภาพตับเป็นประจำ
อย่ารอให้ตับส่งสัญญาณเตือน เพราะเมื่อถึงตอนนั้นอาจสายเกินแก้ เริ่มดูแลตับของคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว!.
ที่มาและภาพ ESSE