เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นางกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ลงเรือเพื่อออกตรวจและสำรวจความเสียหายของกระชังเลี้ยงปลานิล หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่อำเภอสหัสขันธ์ และอำเภอหนองกุงศรี

นางกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า ผลพวงจากพายุฤดูร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้กระชังปลาพังเสียหาย เบื้องต้นมีเกษตรกรแจ้งเข้ามาแล้ว 5 ราย รายละ 1-2 หลุม มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท ในลักษณะความเสียหายมาจากแรงพายุได้พัดตัวกระชังพัง เหล็กหัก กระชังหลุด ทำให้ปลาล้นออกจากกระชังจำนวนมาก และจากการสำรวจยังพบกระชังที่ชำรุดอีกหลายกระชังได้แจ้งให้เกษตรกรได้เร่งเข้าปรับปรุงโดยด่วน และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่ปีนี้มาเร็ว รุนแรง และอาจจะเกิดบ่อยครั้งกว่าทุกปี

“ในการเตรียมรับมือพายุฤดูร้อน เบื้องต้นได้แจ้งให้เกษตรกรได้ตรวจเช็กตัวกระชังที่ต้องเพิ่มความแข็งแรงของกระชัง เชือกที่ต้องเพิ่มขนาดใหญ่ และทุ่นผูกกระชังที่จะต้องแน่นหนามั่นคง อย่างไรก็ตามในห้วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงที่เกิดพายุฤดูร้อนเป็นประจำ เกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชังต้องหมั่นตรวจสอบกระชังเพื่อป้องกันความเสียหาย รวมถึงการปล่อยพันธุ์ปลาช่วงนี้มีความเสี่ยงสูง จากสภาพอากาศร้อนจัดที่อาจจะทำให้ปลาน็อกตายได้ สำหรับเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากวาตภัยหรือพายุฤดูร้อนจะได้นำเรื่องแจ้งไปยังส่วนกลางเพื่อรับความช่วยเหลือจากการชดเชยผู้ประสบภัยต่อไป” ประมงอำเภอสหัสขันธ์ กล่าว

สำหรับพื้นที่เลี้ยงกระชังปลาในเขื่อนลำปาวมีทั้งหมด 455 ราย จำนวนกระชัง 11,775 กระชัง พื้นที่เลี้ยงกว่า 269,136 ตร.กม. ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนที่มีการควบคุม ในการทำการประมงในเขื่อนของกรมชลประทาน