เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม. ถึงการแก้ปัญหาอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า แม้ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กระทรวงกลาโหม หน่วยงานความมั่นคง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และภาคเอกชน ในการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ ซึ่งถือว่าได้ผลเป็นอย่างมาก แต่ขอให้ระมัดระวังเรื่องผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ด้วยในเรื่องการเข้าถึงสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ปัญหาดังกล่าวถึงแม้จะดีขึ้น แต่ทุกภาคส่วนต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน หากการดำเนินการติดขัดปัญหาด้านใด ก็ขอให้เร่งประสานมายังรัฐบาลเพื่อจะได้เร่งแก้ไขต่อไป
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายกฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศกัมพูชา เพื่อเร่งศึกษาและหาข้อสรุปร่วมกันถึงแนวทางการสร้างกำแพงระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันการข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย และการเดินทางของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อีกทั้งให้กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ศึกษาถึงความจำเป็นในการจัดซื้อจัดจ้างอุโมงค์เอกซเรย์ เพื่อใช้ในด่านศุลกากรบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในการตรวจสอบสิ่งของต้องสงสัย เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงให้กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานความมั่นคง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องศึกษาถึงความจำเป็นในการติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อติดตามดูสถานการณ์ได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงมากขึ้นต่อไป.