เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีปัญหาการบุกรุกพื้นที่ คทช.และป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีการนำพื้นที่ไปขายให้นายทุนเพื่อทำสวนทุเรียน ว่า ที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ทางกรมป่าไม้มอบให้หน่วยงานอื่นดูแล ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ ต้องดูแล ซึ่งตนได้คุยกับทางกรมป่าไม้แล้วว่า พื้นที่ที่เข้าโครงการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ทั้งหมด ถ้าทำผิดวัตถุประสงค์ พื้นที่ป่าจะต้องกลับคืนมาที่กรมป่าไม้ เมื่อกลับมาถึงกรมป่าไม้ เราจึงมีหน้าที่ดำเนินการ แต่วันนี้เราแจ้งหน่วยงานที่ขอใช้พื้นที่ที่ขอใช้ เบื้องต้นต้องดำเนินการตามกฎหมายตามที่หน่วยงานนั้นรับผิดชอบ ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรฯ ถ้าพื้นที่ คทช. มีการทำผิดเงื่อนไข ทางอธิบดีกรมป่าไม้ จะทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด โดยขอนำพื้นที่เหล่านั้นมาทำประโยชน์ เช่น ป่าชุมชน หรือป่าสาธารณะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ประโยชน์

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของพื้นที่ที่ทำความผิดเราจะดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน ไม่มีข้อยกเว้น เบื้องต้นทางกรมป่าไม้ได้ออกหนังสือ เรื่องการป้องกันและควบคุมมิให้มีการซื้อขายโอนสิทธิเปลี่ยนมือในพื้นที่ที่ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไปถึงผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ทุกสำนักทั่วประเทศ รวมทั้งให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบร่วมกับฝ่ายปกครอง ซึ่งผู้ว่าฯ จะต้องรู้อยู่แล้วว่าแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร หากมีการรายงานว่า ถ้าทำผิดวัตถุประสงค์ เราจะนำพื้นที่ป่าคืนมา ซึ่งจะบังคับใช้กฎหมาย 100 เปอร์เซ็นต์

“ส่วนการตรวจสอบเกี่ยวกับชาวบ้านที่มีสิทธิทำกินในเขตป่าสงวนฯ ตามโครงการ คทช. ซึ่งพบว่ามีนายทุนรวบรวมพื้นที่ไป จึงถือว่าผิดวัตถุประสงค์ เพราะซื้อขายกันไม่ได้ เมื่อผิดวัตถุประสงค์ก็นำพื้นที่ป่ากลับคืนมา” นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้  กล่าวว่า ขณะนี้ทำหนังสือไปยังประธาน คทช.จังหวัด เพื่อให้ตรวจสอบเกษตรกรทั่วประเทศที่ได้รับสิทธิที่ดินทำกินจาก คทช.ไปแล้ว โดยกรมป่าไม้มอบที่ดินให้ สคทช.จำนวน 7.2 ล้านไร่ เพื่อให้เกษตรกรทำกิน ซึ่งตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่ คทช.กำหนดสามารถถือครองที่ดินได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่เกินรายละ 20 ไร่

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การที่เกษตรกรได้ที่ดินจาก คทช.ไปแล้ว นำไปซื้อขายเปลี่ยนมือถือว่าผิดวัตถุประสงค์ชัดเจน โดยเฉพาะภาคตะวันออกที่เป็นข่าวนำไปให้ทุนจีนปลูกสวนทุเรียน กรมป่าไม้ลงพื้นที่สำรวจรายแปลงและจะสรุปภายใน 30 วัน การนำที่ดินจากคทช.ไปขายเปลี่ยนมือถือว่าผิดเงื่อนไขเปลี่ยนมือถือว่าทำผิดชัดเจน เกษตรกรต้องถูกยึดพื้นที่คืนและจะไม่ได้สิทธิใดๆ อีกเลย

เมื่อถามว่าต้องมีการทบทวนและชะลอการแจกที่ดินแปลงอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างเตรียมการหรือไม่ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องทบทวนภาพใหญ่ เพราะหลักการและเงื่อนไขที่ คทช.แจกที่ดินทำกินครอบคลุมอยู่แล้ว กรณีดังกล่าวเกิดจากเกษตรกรส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้อาจต้องให้มีมาตรการในการออกตรวจที่ดินที่แจกให้เกษตรกรไปแล้วว่าทำตามเงื่อนไขหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยแบบที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออก.