จากกรณีมีคนร้ายเป็นชาย 1 ราย ใช้ไขควงจี้เด็กนักเรียนหญิงใส่กุญแจมือเป็นตัวประกัน บนรถสองแถวสายอุดรธานี-หนองวัวซอ ตั้งแต่เขตบ้านปากดง ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ก่อนบังคับคนขับรถพาเข้าที่เปลี่ยว บริเวณบ้านนิคม 1 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี แล้วชิงเอาเงินสด 2 พันกว่าบาท แล้วชิงเอารถสองแถวหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.24 น. วันที่ 2 มีนาคม 2568 กระทั่งเมื่อเวลา 19.30 น. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยหลวง ได้ติดตามไปจนพบรถสองแถวที่โดนคนร้ายชิงมา จอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะท้ายบ้านหนองอ้อ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี แต่ยังไม่พบตัวคนร้าย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. พ.ต.ท.มานิตย์ แก้วเจริญ รอง ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี หัวหน้า สภ.ย่อยห้วยหลวง ได้รับแจ้งจากตำรวจชุดสืบสวน สภ.กุดจับ ว่าคนร้ายที่จี้ชิงรถสองแถว ได้เข้ามอบตัวแล้ว ทราบชื่อภายหลังว่า นายวิทวัส หรือ “เบิร์ด” (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ชาว อ.สุวรรณคูหา จ.อุดรธานี จึงนำกำลังชุดสืบสวนไปควบคุมตัว แล้วนำไปค้นในห้องพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.กุดจับ พบของกลาง ไขควงแฉก ยาวประมาณ 30 ซม. กรรไกรปลายแหลม กุญแจมือ อยู่ในกระเป๋าย่าม
ก่อนนำตัวไปยังจุดที่ทิ้งชุดที่สวมใส่ก่อเหตุ กระเป๋าของคนขับรถสองแถว และสิ่งของอื่น ๆ บริเวณป่าอ้อยในพื้นที่บ้านหนองอ้อ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และนำตัวไปชี้จุดที่จอดรถสองแถวแล้วหลบหนี หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ห้วยหลวง และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ยังพบคนร้ายเดินอยู่บนถนนภายในชุมชนคลองเจริญ เทศบาลนครอุดรธานี ก่อนจะเดินไปที่สี่แยกบายพาสอุดร-กุดจับ คาดว่าจะเป็นจังหวะก่อนที่คนร้ายจะเดินไปโบกรถ แล้วขึ้นไปก่อเหตุ
นายเบิร์ด รับสารภาพว่า ก่อเหตุจริงแต่ไม่ได้วางแผน เมื่อขึ้นรถสองแถวแล้วคิดว่ามีคนจะตามฆ่า คิดว่ารถเก๋งที่ขับตามมาจะมาทำร้าย จึงก่อเหตุจี้เด็กผู้หญิงและชิงรถไป ที่ชิงรถไปเพราะกลัวรถเก๋งจะตามมาฆ่า ทำไปเพราะเสพยาบ้าจนหลอน เสพยาบ้ามาก่อนประมาณ 10 เม็ด ไม่ได้ตั้งใจจะชิงรถไปขาย เพียงแค่จะหนีตายจากรถเก๋งคันนั้น จับเด็กเป็นตัวประกันเพื่อจะให้พาหลบหนี ส่วนอุปกรณ์กุญแจมือที่พกมา เป็นของตัวเองซึ่งเคยทำงานเป็น รปภ.ที่ อ.สุวรรณคูหา ตัวเองเคยเป็นผู้รับเหมาช่วง แต่ก็ตกอับจนถูกแฟนทิ้ง แล้วจึงหันมาเสพยา
พ.ต.ท.มานิตย์ แก้วเจริญ รอง ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า คนร้ายหลังจากทิ้งรถไว้ที่บ้านหนองอ้อ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ ได้เดินเท้าไปอีก 3 กม. ระหว่างทางเจอเสื้อผ้าชาวบ้านที่เถียงนา จึงเปลี่ยนชุดและทิ้งสิ่งของบางส่วนไว้ในป่าอ้อย ก่อนจะเดินไปถึงริมฝั่งอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง จนเจอชาวบ้านแล้วโกหกว่าถูกไล่ทำร้าย ให้ช่วยพายเรือข้ามฝั่งไปส่งอีกฟาก ชาวบ้านหลงเชื่อจึงพายเรือไปส่งเกือบ 2 กม. เมื่อถึงฝั่งในเขต อ.กุดจับ ได้ขึ้นมาโบกรถ โดยอ้างเหมือนเดิมถูกไล่ทำร้าย ชาวบ้านจึงไปส่งในตัว อ.กุดจับ
“…หลังจากนั้นคนร้ายได้ซื้อเสื้อผ้าในตลาด อ.กุดจับ แล้วไปเปิดห้องพักในรีสอร์ท คืนละ 400 บาท คนร้ายได้เห็นข่าวตัวเองในทีวี จึงเกิดความกลัวว่าจะถูกตำรวจจับ และกลัวว่าจะถูกฆ่า จึงติดต่อเจ้าของรีสอร์ทให้พาเข้ามอบตัว จากการตรวจสอบประวัติคนร้ายพบว่า มีหมายจับลักทรัพย์ประมาณ 5 หมาย ล่าสุด 15 ก.พ. 68 ได้ก่อเหตุลักจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น แล้วนำมาขายที่ อ.สุวรรณคูหา เอาไปซื้อยาบ้า 25 เม็ด ก่อนจะหนีเข้ามาในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี แล้วมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อหาชิงทรัพย์และเสพยาเสพติดไว้ก่อน…” พ.ต.ท.มานิตย์ กล่าว
ด้าน นางอุดมพร (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี เจ้าของรถสองแถว เมื่อทราบข่าวว่าตำรวจจับคนร้ายและเจอรถสองแถว จึงเดินทางมาที่ สภ.ห้วยหลวง เพื่อให้ปากคำและชี้ตัวคนร้าย ก่อนเปิดเผยว่า ตอนแรกคิดว่าคนร้ายชิงรถไปเพื่อนำไปขาย แต่เมื่อเจอรถแล้ว ตนก็ดีใจที่ได้รถคืน เรื่องคดีก็ให้ตำรวจดำเนินคดีจนถึงที่สุด ตนขับรถสองแถวมาเกือบ 20 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตอนนั้นตนไม่ได้กลัวคนร้าย เพราะคุยกับเขารู้เรื่อง แต่ห่วงเรื่องความปลอดภัยเด็กมากกว่า โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ หลังจากนี้ก็จะต้องระวังตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม.
