นายอิทธิ ศิริลัทธยากร  รมช.เกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า  โรคลัมปี สกิน เป็นโรคระบาดที่สร้างความเสียหายต่อภาคปศุสัตว์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญกับการป้องกันและควบคุมโรคนี้อย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567 งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ให้กับกรมปศุสัตว์ เพื่อจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน จำนวน 7,850,000 โดส เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดรุนแรงและสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องเกษตรกร และเป็นการเตรียมความพร้อมสินค้าปศุสัตว์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า

สำหรับจังหวัดตาก เป็นจังหวัดที่สองตามแผนของกรมปศุสัตว์ในการมอบวัคซีนลัมปี สกิน เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นประตูการค้าสำคัญที่มีการค้าขายชายแดนมาอย่างยาวนาน การค้าขายโค กระบือเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม การระบาดของโรคลัมปี สกิน ทำให้การนำเข้าโค กระบือผ่านชายแดนชะลอตัวลง ส่งผลกระทบต่อการค้าขายอย่างมาก ซึ่งการป้องกันและควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพและการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับโค กระบือในพื้นที่นั้น เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ต่างประเทศยอมรับและเชื่อมั่นในสินค้าปศุสัตว์ของไทย และยังเป็นการส่งเสริมการค้าชายแดนและเศรษฐกิจในพื้นที่อีกด้วย

 “โครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกินครั้งนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดในพื้นที่ และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ได้รับทราบถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนควบคู่ไปกับมาตรการอื่นๆ เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น วัคซีนจำนวน 7.8 ล้านโดสนี้ จะครอบคลุมการป้องกันโรคในโค กระบือทั่วประเทศ โดย จ.ตาก ได้รับการจัดสรรวัคซีน จำนวน 236,520 โดส ครอบคลุมจำนวนประชากรโคและกระบือทั้งหมดในจังหวัด สำหรับเกษตรกรที่สนใจ สามารถขอรับบริการฉีดวัคซีนได้ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหรืออำเภอใกล้บ้าน และหน่วยงานอื่นๆ ที่ให้ความร่วมมือ เช่น สหกรณ์โคนม/ศูนย์รับน้ำนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็เป็นช่องทางในการขอรับบริการได้เช่นกัน”