สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ว่านายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวถึง “ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ” ที่เกิดขึ้นกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ ในยุครัฐบาลสมัยที่สองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า “เกิดขึ้นอย่างมากและรวดเร็วในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง” โดยส่วนใหญ่ “สอดคล้องอย่างประจวบเหมาะ” กับวิสัยทัศน์ด้านนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลมอสโก


แม้เปสคอฟมองว่า หนทางสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ของโลก “ยังอีกยาวไกล” เนื่องจาก “โครงสร้างอันซับซ้อนของความสัมพันธ์” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “ถูกทำลายจนเสียหายยับเยิน” อย่างไรก็ตาม หากผู้นำทั้งสองประเทศ “ยังมีความมุ่งมั่นเช่นเดิมในทางการเมือง” เส้นทางของการประสบความสำเร็จ “ไม่ไกลเกินเอื้อม” และจะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว


ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวหลังการพบหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา วิจารณ์ผู้นำยูเครน “เล่นเกมมากเกินไป” และเรียกร้องอีกฝ่าย “มีความจริงจังต่อสันติภาพมากกว่านี้ ไม่ใช่เอาแต่วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย” พร้อมทั้งยืนยันว่า สหรัฐจะไม่สนับสนุนยูเครนอีกต่อไป หากเซเลนสกีไม่ยอมร่วมการเจรจา.

เครดิตภาพ : AFP