จากกรณีมีการตรวจพบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อปลูกทุเรียนโดยกลุ่มทุนต่างชาติ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบมและป่าสียัด หมู่ 20 บ้านห้วยนา และหมู่ 14 บ้านเขากล้วยไม้ ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา โดยไม่ได้รับอนุญาต พบการปลูกทุเรียนในเขตป่าสงวนฯ โดยนายทุนจำนวน 2 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 342 ไร่ พบการเปลี่ยนแปลงสภาพป่าขุดสระเก็บน้ำ และสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ การตรวจสอบพบว่า สวนทุเรียนนี้เคยเป็นของบริษัทผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ก่อนจะถูกเปลี่ยนมือเป็นบริษัทปลูกทุเรียน ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเจ้าของเป็นชาวจีน แต่จดทะเบียนในประเทศไทยโดยใช้ตัวแทนคนไทย เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย

ลุยตรวจพื้นที่รุกป่าสงวนฯ ท่าตะเกียบ กลุ่มนายทุนจีนปลูกทุเรียนแปลงใหญ่

พ่อเมืองแปดริ้ว สั่งล่า ‘นอมินี’ บุกรุกป่าสงวนฯปลูกทุเรียนแปลงใหญ่ให้ทุนจีน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ออกหนังสือว่าด้วยเรื่อง การป้องกันและควบคุมมิให้มีการซื้อขายโอนสิทธิเปลี่ยนมือในพื้นที่ที่ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยแจ้งไปยัง ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1-13 และ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา โดยระบุว่า ตามที่ได้มีการเสนอข่าวทางสถานีโทรทัศน์และข่าวออนไลน์ว่า ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ได้ดำเนินการจัดที่ดิน คทช. ให้แก่ราษฎร มีการทำสวนทุเรียนแปลงใหญ่มีการขุดบ่อน้ำใหญ่ ติดตั้งระบบเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง และวางระบบน้ำรอบสวนทุเรียน โดยราษฎรที่ได้รับนำที่ดินไปขายให้แก่กลุ่มนายทุนนำไปปลูกทุเรียน

กรมป่าไม้พิจารณาแล้ว ขอเรียนดังนี้ 1.กรณีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่กรมป่าไม้อนุญาตให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) กรมป่าไม้ ได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธาน คทช.จังหวัด เร่งรัดดำเนินการในขั้นตอนการจัดที่ดินให้เสร็จสิ้น ป้องกันและควบคุมมิให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ โดยให้ทำการตรวจสอบคัดกรองผู้ที่จะได้รับตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดินของผู้ได้รับการจัดที่ดินอย่างสม่ำเสมอ และแจ้งให้ผู้ปกครองท้องที่ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยกันสอดส่องดูแลมิให้มีการซื้อขายโอนสิทธิเปลี่ยนมือ หากตรวจพบมีการกระทำผิดเงื่อนไข ข้อกำหนดการใช้ที่ดิน ให้แจ้ง คทช.จังหวัดพิจารณายกเลิกเพิกถอนการจัดที่ดินของราษฎรรายนั้นๆ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

2.กรณีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ได้รับการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกิน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2561 ให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ท้องที่สั่งการและกำชับเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบติดตามการใช้ที่ดินของราษฎร หากตรวจพบมีการซื้อขายโอนสิทธิเปลี่ยนมือ มีการใช้ที่ดินทำการเกษตรแปลงใหญ่ มีการกระทำผิดเงื่อนไข ข้อกำหนดการใช้ที่ดิน ให้ดำเนินยกเลิกเพิกถอนการรับรองการอยู่อาศัยทำกินของราษฎรรายนั้นๆ แล้วให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาดต่อไป.