เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 มี.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกรายการโทรทัศน์ ชื่อรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” #EmpoweringThais ทั้งนี้รูปแบบรายการในสัปดาห์นี้เป็นการอัปเดตประเด็นเศรษฐกิจ โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า อยากพูดเรื่องของเศรษฐกิจมีตัวเลขจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งมีหลายฝ่ายรู้สึกกังวลว่าเศรษฐกิจของเราไม่โต และรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน ซึ่งความจริงแล้วเศรษฐกิจภาพใหญ่ไตรมาส 4 ปี 2567 จีดีพีเราขึ้น 3.2% รวมทั้งหมด ทั้งปีจีดีพีขึ้นอยู่ที่ 2.5% แค่ไตรมาส 4 อย่างเดียวขึ้นพอสมควร เกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แต่มีคำถามว่าทำไมประเทศของเราจีดีพีขึ้นน้อย รั้งท้ายอาเซียน เพราะความจริง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ หากเราไม่ทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า เราจะตามคนอื่นไม่ทัน ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องดันจีดีพีประเทศไทยขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนดันต้องใช้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย
นายกฯ กล่าวต่อว่า ตอนนี้รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน ดิฉันนั่งเป็นนายกฯ ประมาณ 5 เดือนกว่าเกือบ 6 เดือน เราดูเรื่องงบประมาณ งบประมาณค่อนข้างมีจำกัดมาก งบส่วนใหญ่ที่รัฐได้มาจะถูกนำไปใช้จ่ายเรื่องงบประจำ พยายามรัดเข็มขัดให้ดี ไม่อยากให้มีการจ่ายเพิ่มงบประจำ ขออย่าเสียกำลังใจในเรื่องจีดีพี จีดีพีเราโต 2.5% แปลว่าเราโตขึ้นจากปีที่แล้ว 2% ขยับขึ้นและคิดว่าภายใต้การนำของรัฐบาลร่วมกับเอกชนร่วมมือกัน จีดีพีมีโอกาสโตขึ้นสูงมากๆ อย่าเพิ่งท้อใจ นี่เพิ่งต้นปี เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย
“ดิฉันเดินทางไปต่างประเทศเข้าร่วมประชุม World Economic Forum ปี 2025 หรือ WEF 2025 เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ให้ความมั่นใจว่าเราจะทำเรื่องนี้เต็มที่ดันเรื่องการลงทุน ดิฉันต้องอยู่ครบเทอม เพื่อผลักดันการลงทุนเพื่อบอกให้เขามั่นใจว่าเราไม่ได้จู่ๆ จะเปลี่ยนอีกนะ เอะอะ! ยุบสภากันนะ เกมการเมืองเป็นเรื่องหนึ่ง แต่คนที่ได้ผลกระทบคือประชาชนและประเทศชาติ อันนี้เป็นสิ่งที่เมื่อเป็นนายกฯ ต้องตระหนักเรื่องนี้หนักแน่นเข้าไว้ ในทุกเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเราหนึ่งคนเล่นเกมการเมืองทุกอย่างที่คุยไว้ ไม่มีใครเขาเชื่อแล้ว จบการลงทุนทุกอย่างจะผลักดันได้ยาก” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ได้มีโอกาสไปลงพื้นที่ตรวจราชการที่ภาคใต้ ชาวบ้านบอกว่าสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ เคยให้งบประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อสร้างสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่ จ.พัทลุง ลูกมาแล้ววันนี้ให้งบอีกแน่นอน (หัวเราะ) ชาวบ้านน่ารักมาก กดดันกันเลย ความจริงแล้วทุกจังหวัด ทุกที่ รัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว ดิฉันเองผู้เป็นนายกฯ ไม่เลือกว่าจังหวัดไหนคุณพ่อเคยทำหรือไม่ ไม่เกี่ยวกัน ทุกที่ ทุกจังหวัดคือประเทศไทย ฉะนั้นนายกฯ จะต้องดูแลประเทศไทยให้ดีที่สุด อันนี้คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นไม่มีข้อต่อรอง ขอบอกพี่น้องทุกจังหวัดเต็มที่
นายกฯ กล่าวด้วยว่า เพิ่งเริ่มต้นรัฐบาลผลักดันต่อแน่นอน เพื่อให้จีดีพีของประเทศเพิ่มมากขึ้น จีดีพีเพิ่มขึ้นแปลว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้น คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตัวเลขเหล่านี้เพื่อให้ประเทศอื่นๆ ได้ดูด้วยว่าประเทศไทยมีคุณภาพมีศักยภาพขึ้นแล้ว จีดีพีช่วงนี้ที่ไม่ได้ขึ้นมานานก็ขึ้น กำลังค่อยๆ ไปต่อ ดิฉันเองอยากทำให้ขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งความจริงคิดว่าเป็นไปได้ รัฐบาลอยากให้พี่น้องทุกคนรวยๆ จะได้จับจ่ายใช้สอยให้เกิดประโยชน์กับประเทศ วินวินแน่นอน
“ก็ขอกำลังใจเยอะๆ บางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ค่ะ ประเทศยังต้องการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน” นายกฯ กล่าว.