เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 68 พลตรี อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ บูรณาการร่วมกับ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 68 ได้รับแจ้งจากชุดปฏิบัติการข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมายจากพื้นที่ชายแดนกาญจนบุรี โดยมีจุดหมายปลายทางที่จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้สั่งการให้ พันเอก พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย พันเอก ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นำกำลังพลหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134, สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี และฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณบ้านไหล่น้ำ หมู่ 3 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ต่อมา เวลา 19.30 น. ขณะเจ้าหน้าที่ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่ดังกล่าว สังเกตพบกลุ่มบุคคลคล้ายผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง กำลังเดินลัดเลาะชายป่า มุ่งหน้าไปทางห้วยซองกาเรีย จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบกลุ่มบุคคลลักษณะคล้ายต่างด้าว จำนวน 49 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมกลุ่มบุคคลดังกล่าวไว้ทั้งหมด และขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าว ไม่สามารถแสดงเอกสารที่ทางราชการออกให้ได้

จากการสอบถามผ่านล่าม ทราบว่า แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกลุ่มดังกล่าว ลักลอบหลบหนีเข้ามายังพื้นที่ชายแดนของประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติบ้านบ่อญี่ปุ่น และเดินทางเข้ามาพักคอย บริเวณป่าไผ่ท้ายไร่พงศ์วัฒนา บ้านไหล่น้ำ หมู่ 3 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี และจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวขึ้นเรือ เพื่อหลบเลี่ยงเส้นทางจุดตรวจทางบกของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง โดยทั้งหมดจะเดินทางไปทำงานที่อำเภอมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และจะเสียค่าจ้างให้กับนายหน้าเมื่อถึงปลายทาง จำนวน 15,000 บาท แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.