สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ เกี่ยวกับการพบหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว ซึ่งมีอันต้องยุติกลางคัน จากการถกเถียงกันอย่างดุเดือดระหว่างทั้งคู่ ว่าโดยส่วนตัวเขายังคงเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์กับทรัมป์ “สามารถซ่อมแซมและฟื้นฟูได้”


เซเลนสกีกล่าวต่อไปว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับยูเครน “มากกว่าแค่ประธานาธิบดีสองคน” พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ยูเครนต้องการความสนับสนุนที่ต่อเนื่องจากสหรัฐ เพื่อต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย “ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เดินทางออกจากทำเนียบขาว โดยมีเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งเดินมาส่ง


ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐ ที่มีการเชิญผู้นำต่างประเทศออกจากทำเนียบขาวกลางคัน ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐ


ด้านสื่อท้องถิ่นของสหรัฐรายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว ว่า “เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว” เชิญเซเลนสกีออกจากทำเนียบขาว


อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า จะขอโทษผู้นำสหรัฐหรือไม่ เซเลนสกีตอบว่า “ไม่แน่ใจว่าทำอะไรผิด” และแสดงความเสียใจ ที่การถกเถียงกับทรัมป์เกิดขึ้น ท่ามกลางสายตาของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและยูเครน และผู้สื่อข่าวจำนวนมาก.

เครดิตภาพ : AFP