อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2025 ซึ่งปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญก็มาจากความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคในยุคนี้ให้ความสำคัญกับ ‘สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี’ มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคไทยกว่า 33% มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ผู้บริโภคทั่วโลกยังให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตมากขึ้นถึง 36% โดยมองหาอาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยควบคุมอารมณ์และส่งเสริมการนอนหลับ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิตในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้
Sustain Daily จึงถือโอกาสชวนสำรวจเมกะเทรนด์ที่กำลังมาแรง และพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีผลต่ออุตสาหกรรมอาหาร-เครื่องดื่ม ในปี 2025 ผ่าน 5 หัวข้ออันน่าสนใจดังต่อไปนี้
1. ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม: ปัจจัยหลักในการเลือกซื้ออาหาร
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมอาหารคือ ความยั่งยืน (Sustainability) ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการลดขยะอาหาร แนวทางการเกษตรแบบฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) และการใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่ยั่งยืนกำลังได้รับความนิยม เพื่อช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสร้างห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใส
- อาหารจากพืช (Plant-Based Food): อาหารที่ทำจากพืชยังคงได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการผลิตเนื้อสัตว์
- บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก (Eco-Friendly Packaging): แบรนด์ต่างๆ กำลังพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ หรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติก
2. นวัตกรรมเทคโนโลยี: ปฏิวัติอุตสาหกรรมอาหาร
เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอาหาร ตั้งแต่การพัฒนาอาหารทางเลือก ไปจนถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การบริโภค
- อาหารสังเคราะห์ (Lab-Grown Food): เทคโนโลยีการผลิตเนื้อสัตว์จากเซลล์ (Cultivated Meat) กำลังได้รับการยอมรับมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์
- Food Tech และ AI: ระบบอัตโนมัติและ AI ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาเมนู การคำนวณโภชนาการ รวมถึงการบริหารจัดการวัตถุดิบในร้านอาหาร
- การติดตามแหล่งที่มา (Traceability): ผู้บริโภคต้องการความโปร่งใสเกี่ยวกับอาหารที่พวกเขาบริโภค QR Code และ Blockchain ถูกนำมาใช้เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของวัตถุดิบ
3. อาหารเพื่อสุขภาพ: ฟังก์ชันนอลฟู้ดส์และโภชนาการเฉพาะบุคคล
จากข้อมูลด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคในปี 2025 ชี้ให้เห็นว่าผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น และต้องการอาหารที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพในระยะยาว
- ฟังก์ชันนอลฟู้ดส์ (Functional Foods): อาหารที่มีประโยชน์เฉพาะด้าน เช่น อาหารเสริมโปรตีน อาหารที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และอาหารที่มีพรีไบโอติกส์และโปรไบโอติกส์
- โภชนาการเฉพาะบุคคล (Personalized Nutrition): เทคโนโลยีด้าน DNA และข้อมูลสุขภาพถูกนำมาใช้เพื่อออกแบบอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละบุคคล
4. การผสมผสานวัฒนธรรมอาหาร: เทรนด์อาหารข้ามชาติ
ในยุคที่โลกเชื่อมต่อกันได้อย่างง่ายดาย ผู้บริโภคเริ่มเปิดรับรสชาติและวัฒนธรรมอาหารจากทั่วโลก อาหารฟิวชั่นและเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารท้องถิ่นของประเทศต่างๆ กำลังเป็นที่นิยม
- ความนิยมของอาหารเผ็ดร้อน: เครื่องเทศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น พริกไทยดำ ขมิ้น และสมุนไพรอื่นๆ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
- อาหารทางเลือกจากวัตถุดิบใหม่: การใช้โปรตีนทางเลือกจากแมลง สาหร่าย และพืชพื้นเมืองได้รับความสนใจมากขึ้น
5. ประสบการณ์และความบันเทิง: การรับประทานอาหารที่เป็นมากกว่าการกิน
ผู้บริโภคยุคใหม่มองหาอาหารและเครื่องดื่มที่ให้ประสบการณ์มากกว่ารสชาติ การจัดอีเวนต์อาหาร หรือการนำเสนออาหารในรูปแบบที่สร้างสรรค์เป็นที่ต้องการมากขึ้น
- การรับประทานอาหารแบบอินเทอร์แอคทีฟ: เช่น ร้านอาหารที่ใช้ AR (Augmented Reality) หรือ VR (Virtual Reality) เพื่อเพิ่มมิติให้กับการทานอาหาร
- อาหารที่เน้นการถ่ายภาพ (Instagrammable Food): เมนูที่มีสีสันและการตกแต่งที่สวยงามยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคยุคดิจิทัล
สำหรับประเทศไทย ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลก โดยการพัฒนาเมนูเพื่อสุขภาพ ใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืน และนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ธุรกิจอาหารท้องถิ่นสามารถใช้เทรนด์นี้ในการสร้างโอกาสทางการตลาดและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง
ทั้งนี้ ภาครัฐและภาคเอกชนควรจะต้องร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล ผ่านการสนับสนุนเกษตรกรให้เปลี่ยนไปใช้วิธีการผลิตที่ยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก หากไทยสามารถปรับตัวได้ทัน กระแสเมกะเทรนด์เหล่านี้จะไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจอาหารเติบโต แต่ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก: Cadena SER, Better Homes & Gardens, Associated Press News และ Vogue Business