กรณี กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 โดยศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตำรวจภูธรภาค 8 ได้เปิดยุทธการปิดล้อมตรวจค้นและจับกลุ่มกลุ่มชาวต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ และภูเก็ต โดยก่อนหน้านั้นได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นสำนักงานกฎหมาย ที่ให้การช่วยเหลือจัดตั้งบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะนอมินีให้กับชาวต่างชาติ เพื่อถือครองที่ดินและก่อสร้างวิลล่าหรูบนพื้นที่สูง ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย และใช้รูปแบบการดำเนินคดีทุนต่างชาติในพื้นที่ท่องเที่ยวของ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ภายใต้ สมุยโมเดล ขยายผลกวาดล้างจับกุม ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตำรวจภูธรภาค 8 รายงานผลการจับกุม บุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ว่า สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต, ตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต และจัดหางานจังหวัด ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการอชิราห์ วิลล่า เฟส 3 (ASHERAH) หมู่ที่ 9 ต.เทพกษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังมีเบาะแสว่ามีกลุ่มคนจีน เข้ามาทำงานก่อสร้าง
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบชายหลายคนลักษณะเป็นคนต่างชาติ กำลังติดตั้งกระจกตัวอาคาร สอบถามเบื้องต้นทั้งหมดแจ้งว่าเป็นชาวจีน เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง และใบอนุญาตทำงาน กลับไม่สามารถนำมาแสดงได้ จึงควบคุมตัว 8 คน อายุระหว่าง 25-45 ปี สอบถามทราบว่า ชาวจีนมารับจ้างทำงานติดตั้งกระจกและตกแต่งอาคาร โดยตกลงกับผู้ว่าจ้างซึ่งเป็นนายจ้าง ได้รับค่าจ้างเดือนละ 20,000-25,000 บาท โดยผู้ว่าจ้างได้เช่าบ้านพักให้อยู่อาศัยระหว่างทำงาน และจากการตรวจสอบในระบบสารสนเทศ สตม. ทราบว่า ชาวจีนทั้ง 8 คน ทยอยเดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 5-15 กุมภาพันธ์ 2568 ได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว (ฟรีวีซ่า ผ.60 ม.17) การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด จึงได้แจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.นิกร ชูทอง ผกก.สภ.ถลาง กล่าวว่า จากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดในเบื้องต้น ได้ให้การว่ามีนายจ้างได้ว่าจ้างเข้ามาเพื่อทำการตกแต่งและติดตั้งกระจกในบริเวณโครงการที่ก่อสร้าง แต่ไม่ยอมให้รายละเอียดว่านายจ้างคือบุคคลใด ซึ่งตนได้กำชับให้พนักงานสอบสวน ได้สอบสวนเพื่อให้ได้ข้อมูลของตัวนายจ้าง ขณะเดียวกันก็ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวนายจ้าง เพื่อดำเนินการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ขณะเดียวกัน สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างโครงการหอชมดาว ม.วลัยลักษณ์ ต.ไทรบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังมีข้อมูลสืบสวนทราบว่ามีชาวจีน เข้ามาทำงานควบคุมงานไม้ในการก่อสร้าง และควบคุมตัว นายวัง ซินมิน (MR.WANG XINMIN) อายุ 48 ปี สัญชาติจีน ตรวจสอบพบว่า เข้ามาในราชอาณาจักรทางผ่านด่าน ตม.ทอ.ดอนเมือง เมื่อ 19 ก.พ. 2568 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรประเภทท่องเที่ยว อนุญาตถึง 19 เม.ย. 2568

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าว มี บริษัท พรีม่าโปร จำกัด เป็นผู้รับเหมา และมีนายวัง ซินมิน มาทำงานอยู่ที่เกิดเหตุประมาณ 2 สัปดาห์ มีหน้าที่ควบคุมคนงานทั้งหมด แต่เมื่อตรวจสอบไม่พบใบอนุญาตทำงาน จึงแจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวสืบสวนของ ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตำรวจภูธรภาค 8 ระบุว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มทุนจีน ที่เข้ามาประกอบธุรกิจด้านที่พัก ประเภทวิลล่าเพื่อปล่อยเช่าให้กับนักท่องเที่ยวในลักษณะโรงแรมที่พัก ทั้งในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ภูเก็ต กลุ่มทุนจีนเหล่านี้ จะมีการนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาจากประเทศจีน รวมถึงใช้แรงงานที่เป็นชาวจีน ที่เดินทางเข้ามาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวประเภทฟรีวีซ่า และจากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มทุนจีนเกือบทั้งหมด มีการจัดตั้งบริษัทนิติบุคคล โดยใช้นอมินีชาวไทย
