จากสถานการณ์อุบัติเหตุรถทัวร์โครงการพัฒนาศักยภาพและการศึกษาดูงานคณะกรรมการธนาคารขยะและหมู่บ้าน โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ พลิกคว่ำเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 68 เวลา 03.20 น. บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 304 กม.ที่ 210+500 (ขาเข้า) ทางลงเขาศาลปู่โทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย และบาดเจ็บ 30 ราย นั้น ทางจังหวัดบึงกาฬ จึงประชุมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด โดยรายละเอียดเงินช่วยเหลือที่จะได้รับนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิของ คปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นพบว่า รถบัสคันดังกล่าวทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยกรมธรรม์เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 ธ.ค. 67 และสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 68 ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บค่ารักษาสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน

นอกจากนี้รถบัสคันดังกล่าวยังได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับบริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 ธ.ค. 67 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 68 ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก 500,000 บาทต่อคน 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความรับผิดต่อทรัพย์สิน 600,000 บาทต่อครั้ง รวมถึงความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวรของผู้ขับขี่ 50,000 บาท ผู้โดยสารคนละ 50,000 บาทต่อคน และค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาทต่อคน ประกันตัวผู้ขับขี่ 300,000 บาทต่อครั้ง สำหรับการติดตามค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุครั้งนี้ ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบอุบัติเหตุในกรณีที่เสียชีวิต จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการทำประกันภัย พ.ร.บ.โดยเฉลี่ยจ่ายจากวงเงินไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง และประกันภัยรถภาคสมัครใจความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อชีวิตร่างกายหรืออนามัยของบุคคลภายนอก โดยเฉลี่ยจ่ายวงเงินไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง ในส่วนของผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดนครนายก ได้ประสานกับบริษัทประกันภัยเข้าไปอำนวยความสะดวกและรับรองสิทธิค่ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลโดยตรงโดยผู้บาดเจ็บไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาตามสิทธิแต่อย่างใด
โดยขณะนี้ ทางอำเภอพรเจริญได้ตั้งศูนย์ประสานงานเตรียมรับศพ และจัดการศพที่วัดป่าวิเวกธรรมคุณ หมู่ 8 ต.พรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ซึ่งขณะนี้รถกู้ภัยของมูลนิธิสว่างศรีวิไล จำนวน 15 คัน ออกเดินทางไปรับศพแล้ว คาดว่าจะกลับถึง อ.พรเจริญ ในเวลาประมาณ 20.00 น. (26 ก.พ. 68)