สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ว่า กองทุนวันเอ็มดีบีกล่าวหาว่า นายริซา อาซิซ และบริษัทภาพยนตร์ของเขา ยักยอกเงิน 248 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปเป็นเงินทุนสนับสนุนภาพยนตร์และกิจกรรมอื่น ๆ เมื่อเกิดอื้อฉาวทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงทศวรรษที่ 2010

คดีดังกล่าวจุดชนวนให้เกิดการสอบสวนในสหรัฐ สวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์ ซึ่งมีการกล่าวหาว่า เงินทุนข้างต้นมาจากการฟอกเงิน

อย่างไรก็ตาม นายมูฮัมหมัด ฟาร์ฮาน มูฮัมหมัด ชาฟี ทนายความของอาซิซ ยืนยันว่า กองทุนวันเอ็มดีบีถอนฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลสูงมาเลเซีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

“อาซิซรู้สึกโล่งใจ เพราะคดีความทั้งหมดนี้ไม่ควรดำเนินต่อไปจนถึงขั้นพิจารณาคดี หากกองทุนวันเอ็มดีบีดำเนินการตรวจสอบการยอมความทั่วโลกก่อนหน้านี้อย่างรอบคอบ เมื่อได้รับแจ้งผ่านคำให้การของเขา” ฟาร์ฮาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การยอมความข้างต้นอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า อาซิซตกลงที่จะไม่คัดค้านการริบทรัพย์สินทางแพ่งของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ

ทั้งนี้ ฟาร์ฮานยังกล่าวว่า อาซิซถูกตั้งข้อหาเมื่อปี 2562 ก่อนที่จะมีการยกเลิกข้อกล่าวหาในปีต่อมา แต่หลังจากนั้น กองทุนวันเอ็มดีบีก็ฟ้องร้องเขาอีกครั้งในปี 2564 ซึ่งคดีนี้ไม่สามารถยื่นฟ้องได้ เพราะมีการยอมความกันไปแล้ว

เมื่อปี 2563 อัยการมาเลเซียยกเลิกข้อหาต่ออาซิซอย่างไม่คาดคิด หลังเขาเห็นชอบกับการทำข้อตกลงที่จะคืนทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 107 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,609 ล้านบาท) ให้กับทางการมาเลเซีย.

เครดิตภาพ : AFP