กรณีพบศพหญิงสาวไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50-60 ปี ผมยาว สภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว นุ่งกางเกงยีนขาสั้น ใส่ต่างหูทองที่หูซ้าย สวมรองเท้าเปิดส้น สีน้ำตาล ไม่พบเอกสารติดตัว มีเข็มขัดรัดคอ กลางทุ่งนา ซอยไร่ขิง 34 หมู่ที่ 13 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม แพทย์แจ้งว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชม.เหตุเกิดพื้นที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
‘แท็กซี่’ ต้องสงสัย! เข็มขัดรัดคอสาวใหญ่ ตั้งปมชิงทรัพย์-ลากทิ้งกลางทุ่งนา
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวันเดียวกัน(24ก.พ.) หลังพบศพไม่นาน พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช ภ.7 ได้แถลงผลการจับกุม นายไพรัช จินดาวงศ์ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ ป้าน้อย อายุ 58 ปี อาชีพรับจ้าง โดยจับได้ที่บ้านพักของผู้ตาย ในซอยบางเตย ต.ไร่ขิง อ.สามพราน พร้อมสร้อยคอทองคำ (ปลอม ) หนัก 2 บาท 1 เส้น โทรศัพท์มือถือของผู้ตาย 1 เครื่อง และรถ จยย. Yamaha ทะเบียน กรุงเทพมหานคร

สอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การรับสภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยได้รับการแนะนำจากภรรยา หลังรู้จักกันประมาณเดือนเศษ เห็นผู้ตายมีสร้อยคอทองคำ และแหวนทองคำติดตัว จึงพยายามตีสนิทและหลอกว่าจะไปขอแต่งงานด้วย ทำให้ผู้ตายหลงเชื่อและไว้ใจ วันเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์ ไปรับผู้ตายประมาณ 19.30น. อ้างจะพาไปดื่มเพราะผู้ตายเป็นคนชอบดื่ม จึงหลงเชื่อไปด้วย ก่อนพาไปในที่เปลี่ยว และใช้เข็มขัดใต้เบาะรัดคอผู้ตาย ก่อนจะปลดสร้อยคอและแหวนในมือ 2 วง แล้วกลับไปนอนกับภรรยาที่บ้าน
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน พยายามติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด และตรวจสอบว่าผู้ตายเป็นใครอยู่ที่ไหน จนรู้ว่าผู้ตายมักจะไปดื่มกับเพื่อนที่ร้านอาหาร แห่งหนึ่งบริเวณพุทธมณฑลสาย 5 ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามไป หาข้อมูลเพิ่มเติม และรู้ว่าผู้ตาย นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ผู้ต้องหาออกไปเมื่อช่วงค่ำวันเกิดเหตุ ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามไปและจับกุมตัวมาดังกล่าว สอบปากคำให้การรับสารภาพพร้อมนำไปหาหลักฐานเพิ่มเติม ขณะนี้ได้นำภรรยาของผู้ต้องหา มาสอบปากคำเพื่อเติมว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ ตามที่ผู้ต้องหาให้การไว้

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน ใช้ยานพาหนะเพื่อการหลบหนี หรือพาทรัพย์นั้นไป ให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป